วันนี้ (18 เมษายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิดว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมควบคุมโรค ซึ่งเทียบเคียงกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยคาดว่าระดับภูมิคุ้มกันหมู่ในประชาชนลดลงจากการที่มีผู้ฉีดวัคซีนเข็มล่าสุดนานเกิน 6 เดือนเพิ่มขึ้น และพบผู้ติดเชื้อลดลงในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2566 รวมทั้งพบการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ย่อยอื่นจากต่างประเทศ ทำให้จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ ได้ในช่วงเปิดเทอม และจะพบการระบาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝน
โดยสัปดาห์ล่าสุด (วันที่ 9-15 เมษายน 2566) พบผู้ป่วยรายใหม่ 435 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย ทั้งนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว โดยเป็นการติดเชื้อในสมาชิกครอบครัว และการร่วมกิจกรรมที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก ช่วงหลังสงกรานต์ 1-2 สัปดาห์นี้จึงควรเน้นมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ ทั้งในครอบครัวและสถานที่ทำงาน
นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พบว่าอายุไม่มาก แต่รายหนึ่งมีโรคประจำตัว ส่วนอีกรายได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกินกว่า 3 เดือน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เมื่อติดเชื้อแล้วเกิดอาการรุนแรง ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันจึงยังมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 จะช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตได้
ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้เช่นกัน โดยติดต่อขอรับบริการได้ที่สถานบริการในสังกัด สธ. ใกล้บ้าน นอกจากนี้ควรสวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากหรือไปในที่สาธารณะ และหากติดโควิดให้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล ซึ่งได้จัดเตรียมยาและวัคซีนไว้ให้บริการอย่างเพียงพอแล้ว