×

Power of Paper Planes เครื่องบินกระดาษไร้เครื่องยนต์ก็เป็นหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมได้

23.03.2023
  • LOADING...
Paper Planes

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • เพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ได้รับความนิยมในหมู่น้องๆ วัยฟันน้ำนมอย่างล้นหลาม ทำให้ชื่อของ Paper Planes แทบจะไม่หายไปจากหน้าไทม์ไลน์โซเชียลมีเดียเลย
  • อิทธิพลของ Paper Planes ต่อน้องๆ เพิ่มมากขึ้นจนถึงขั้นที่คำขวัญวันเด็กจากพวกเขากลายเป็นที่พูดถึงพอๆ กับคำขวัญของนายกรัฐมนตรี และถูก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เอาไปปรับเป็นคำขวัญวันเด็กของตัวเอง
  • ภาพที่หลายๆ คนจดจำได้เกี่ยวกับวง Paper Planes น่าจะเป็นตอนที่พวกเขาไปปรากฏตัวในงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 ณ เวทีโลมา ซาฟารีเวิลด์ ท่ามกลางเด็กๆ และผู้ปกครองมากมาย
  • ล่าสุด Paper Planes ได้โพสต์คลิปสอนล้างจมูกลงบน TikTok ของวง ซึ่งตอนนี้ (20 มีนาคม) คลิปวิดีโอที่ว่าก็มีผู้เข้าชมกว่า 5.4 ล้านครั้ง และมีคอนเมนต์กว่า 5,200 คอมเมนต์ไปแล้ว แน่นอนว่าคอมเมนต์ส่วนใหญ่มาจากบรรดาผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ ที่เข้ามาขอบคุณ

เมื่อไม่นานมานี้คลิปวง Paper Planes กลับเข้ามาอยู่บนหน้า TikTok ของผู้เขียนอีกครั้ง โดยคลิปดังกล่าวเป็นภาพระหว่างงานอีเวนต์ของแบรนด์หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยน้องๆ วัยฟันน้ำนมกำลังส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจในขณะที่ ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี สมาชิกวงกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่ฮายจะย่อลงไปพูดกับเด็กๆ ว่า “3 2 1 แล้วเงียบพร้อมกันนะ 3 2 1” หลังจากนั้นเสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันตา จนทำให้ผู้เขียนรู้สึกสนใจในพลังการโน้มน้าวใจของไอดอลอย่าง Paper Planes อยู่ไม่น้อย 

 

หลังจากปรากฏการณ์ของเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ที่ได้รับความนิยมในหมู่น้องๆ วัยฟันน้ำนมอย่างล้นหลาม ทำให้ชื่อของ Paper Planes แทบจะไม่หายไปจากหน้าไทม์ไลน์โซเชียลมีเดียเลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้รับยกย่องจากสื่อหลายๆ สำนัก รวมถึงผู้ใช้โซเชียลมีเดียว่าเป็น ‘หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม’ อีกด้วย

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ครั้งแรกเราได้เห็นกระแสของวงนี้จากคลิปวิดีโอบน TikTok ของวง @paperplanesband ที่มีคนกดไลก์ไปกว่าล้านครั้ง ซึ่งเป็นภาพของฮายที่กำลังยื่นไมโครโฟนให้เด็กกลุ่มเล็กๆ อายุราว 5-7 ขวบ ช่วยกันร้องท่อนฮุกของเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ในตอนแรกเรามองว่ามันน่ารักดีที่ได้เห็นเด็กตัวเล็กๆ ช่วยกันร้องเพลงป๊อปพังก์แบบติดขอบเวที แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นกระแสของ Paper Planes จะพุ่งขึ้น และถูกพูดถึงในวงกว้างเข้าไปอีกจากคลิปสั้นคลิปต่อมาที่ฮายให้เด็กๆ ในคอนเสิร์ตกลับไปแปรงฟันก่อนนอน

 

“สัญญาได้ไหมว่าถ้าดูคอนเสิร์ตเสร็จแล้วจะไปแปรงฟันกัน 

 

“ก่อนนอนอย่าลืมแปรงฟันกันนะ โอเคไหม?”

 

 

ผลจากคลิปอย่าลืมแปรงฟันคือคำขอบคุณอย่างล้มหลามจากทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ไปจนถึงทันตแพทย์ เพราะคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเขาสามารถทำให้น้องๆ ยอมแปรงฟันโดยไม่งอแง หรือแม้กระทั่งอยากจะไปแปรงฟันด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครเรียก 

 

อิทธิพลของ Paper Planes ต่อน้องๆ วัยฟันน้ำนมยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนถึงขั้นที่คำขวัญวันเด็กจากพวกเขาอย่าง “สร้างสรรค์ความคิด ผูกมิตรซื่อตรง ก้าวอย่างมั่นคง ฟังทรงอย่างแบด” กลายเป็นที่พูดถึงพอๆ กับคำขวัญของนายกรัฐมนตรี และยิ่งไปกว่านั้น เนื้อเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ยังถูก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เอาไปปรับเป็นคำขวัญวันเด็กของตัวเองอย่าง “เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย สู้อย่าถอย ค่อยๆ สร้างพลังใจ” อีกด้วย

 

อีกภาพที่หลายๆ คนจดจำได้เกี่ยวกับวง Paper Planes น่าจะเป็นตอนที่พวกเขาไปปรากฏตัวในงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 ณ เวทีโลมา ซาฟารีเวิลด์ ท่ามกลางเด็กๆ และผู้ปกครองมากมาย โดยมีฉากหลังเป็นโลมาที่กระโดดขึ้นจากน้ำตรงกับท่อนฮุกของเพลงพอดิบพอดี 

 

 

หลังจากการแสดงที่ซาฟารีเวิลด์ในครั้งนั้น ฮายและเซนก็มีโอกาสเข้ามาบอกเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นในรายการ On That Day EP.31 พวกเขาเล่าว่าวงเป็นคนติดต่อทางซาฟารีเวิลด์ไปเอง เพราะทุกคนเห็นตรงกันว่าที่นั่นน่าจะเป็นสถานที่ที่ดีในการแสดงและเชื่อมต่อพวกเขากับเด็กๆ ในตอนแรกพวกเขาไม่รู้เลยว่าโลมาจะกระโดดขึ้นมาตอนไหน หรือเด็กๆ จะสามารถร้องเพลงตามพวกเขาได้ไหม แต่เหตุการณ์ในวันนั้นก็เหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก เพราะนอกจากจะมีวัยรุ่นฟันน้ำนมมารอเจอพวกเขามากมายแล้ว เด็กๆ ยังมอบความรู้สึกที่พิเศษกลับมาให้พวกเขาอีกด้วย

 

“มีภาพหนึ่งที่เป็นไวรัล น้องเอากระเป๋ามาให้ผมแล้วน้องเขียนมาให้

 

“สิ่งที่ได้รับมาคือสิ่งธรรมดา น้องชอบเรา น้องเลยอยากให้ของเรา แต่กลายเป็นว่าสิ่งเหล่านั้นพอเราเปิดออกมาแล้วมันเบ่งบานเข้ามาทั้งในวิธีคิดของเรา ในอารมณ์ของเรา ในบุคลิกภาพ ในนิสัย ในสันดานของเรา ให้เรารู้สึกว่าเราจะทำอะไรให้เด็กพวกนี้ได้บ้าง”

 

 

ช่วงหนึ่งของการพูดคุย ฮายบอกไว้ว่าเขาเองมีโลกในอุดมคติที่คิดฝันเอาไว้ เป็นโลกที่ทุกคนจะได้รับโอกาสโดยไม่ถูกตัดสินไปก่อนหน้า ซึ่งสิ่งที่เกิดวันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งทางความคิดและทัศนคติ ที่ทำให้พวกเขาสามารถขับเคลื่อนอะไรหลายๆ อย่างในสังคมได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือพวกเขากำลังใช้พลังของตัวเองเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่หวังไว้มากที่สุด

 

ซึ่งสิ่งที่ Paper Planes เลือกทำเป็นอันดับถัดมาคือการลบคำหยาบออกจากเนื้อเพลงในซิงเกิลล่าสุดอย่าง ชัดเจน (Complicated), งดถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกสื่อ, เลือกรับงานช่วงเวลากลางวันมากขึ้น และสื่อสารเรื่องการไม่ตัดสินคนจากภายนอกให้กับผู้ปกครองได้เข้าใจ 

 

ล่าสุด Paper Planes ได้โพสต์คลิปสอนล้างจมูกลงบน TikTok ของวง ซึ่งตอนนี้ (20 มีนาคม) คลิปวิดีโอที่ว่าก็มีผู้เข้าชมกว่า 5.4 ล้านครั้ง และมีคอนเมนต์กว่า 5,200 คอมเมนต์ไปแล้ว แน่นอนว่าคอมเมนต์ส่วนใหญ่มาจากบรรดาผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ ที่เข้ามาขอบคุณทั้งสองสมาชิกที่ช่วยจูงใจให้เด็กๆ ยอมล้างจมูกด้วยตัวเอง บ้างก็เข้ามาเสนอให้พี่ฮายและพี่เซนสอนทำอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น สอนกินผัก หรือสอนทำการบ้าน 

 

 

ทฤษฎีแรงจูงใจของ McGuire อธิบายประเภทของแรงจูงใจไว้หลายรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือความต้องการยึดถือบุคคลอื่นที่ชื่นชอบเป็นตัวแบบ หรือ Need for modelling พูดง่ายๆ คือเรามักจะมีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆ หรือตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างจากคนที่เราชื่นชอบ เช่น เราอาจจะอยากเดินไปอ่านหนังสือเพราะศิลปินในดวงใจบอกให้ตั้งใจเรียน หรือเราอาจจะตั้งใจเก็บเงินอย่างหนักเพราะอยากบินไปดูฟุตบอลแมตช์อังกฤษ มันจึงไม่แปลกหากน้องๆ จะยอมทำบางสิ่งที่พ่อแม่พูดแทบตายก็ไม่ทำเพียงเพราะพี่ๆ Paper Planes ร้องขอ 

 

สิ่งนี้ทำให้เรามองย้อนกลับไปในยุคสมัยของตัวเองว่าใครคือแรงบันดาลใจให้เรายอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบได้บ้าง หรือใครคือคนที่มีอิทธิพลขนาดที่ทุกคนในโรงเรียนร้องเพลงตามได้ ในสมัยหนึ่งมันอาจเป็นเพลง รักคือฝันไป ของวง สาว สาว สาว, เด็กดอยใจดี ของ น้องมายด์ ป่วนเมือง, เพลง คุณครูครับ ของ พลับ หรืออาจจะเป็นเพลง แฟนจ๋า ของ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ 

 

 

ในตอนเด็กๆ เราอาจตั้งใจเรียนเพื่อแลกกับการไปดูคอนเสิร์ต Super Junior เริ่มออกกำลังกายเพราะอยากเต้นเพลง Wolf ของ EXO ให้แข็งแรงที่สุด หัดเล่นกีตาร์เพราะอยากเท่แบบวง The Beatles แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) จาก Paper Planes ที่เป็นเหตุผลของการกระทำเหล่านั้น 

 

อย่างไรก็ตาม วง Paper Planes คงเดินมาไกลไม่ได้ขนาดนี้ถ้าขาดทัศนคติที่น่านับถือ ฮายกับเซนเคยพูดไว้ว่าตัวตนของพวกเขาคือความสามารถในการปรับตัว ณ ตอนนี้พวกเขายังสบายใจที่จะปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ โดยไม่ทิ้งตัวตนของตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เราเชื่อว่าชื่อของ Paper Planes, เพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) และทัศนคติต่างๆ ที่พวกเขาพยายามสื่อสาร จะถูกส่งต่อไปถึงเด็กๆ ได้อย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าในอีก 10 ปีหรือ 20 ปีต่อจากนี้ ชื่อของพวกเขาอาจจะถูกพูดถึงในฐานะเดียวกับศิลปินในตำนานหลายๆ คนก็เป็นได้

 

“โดยปกติเราไม่ได้เป็นคนดีเวอร์ขนาดนั้น เราก็คือวัยรุ่นปกติทั่วไป แต่กลายเป็นว่าถ้ามีพลังแล้วไม่ใช้กับเด็กๆ สักหน่อยเหรอ ทำไมผมไม่เปลี่ยนโลกสักหน่อย”

 

ชมรายการ On That Day EP.31 – Paper Planes ความรับผิดชอบของ ‘หัวหน้าแก๊ง’ ได้ทาง:

 

 

ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร, สลัก แก้วเชื้อ, paperplanesbandofficial / Instagram, paperplanesband / TikTok

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X