ภาคินัย คือนามปากกาและชื่อจริงของ แอมป์-ภาคินัย กสิรักษ์ ซึ่งหากใครเป็นคอหนังสือจะคุ้นชื่อของเขาอย่างมากในฐานะของนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อต้นๆ ของวงการ และเขาได้ล่วงลับไปอย่างสงบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (19 มีนาคม 2566) ฝากไว้ซึ่งผลงานเขียนที่สร้างปรากฏการณ์มากมาย ทั้งในแง่คำชื่นชม ความสนุก การหักมุม และการผูกโยงเรื่องแบบที่ไม่มีใครเหมือน
ผลงานของภาคินัยยังได้รับการยอมรับในวงกว้างจากการที่บทประพันธ์ของเขาถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์และซีรีส์มากมาย และวันนี้ THE STANDARD POP ขอร่วมรำลึกผลงานของเขาบนจอโทรทัศน์ ทบทวนปรากฏการณ์และงานที่น่าจดจำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ภาพ: ภาคินัย กสิรักษ์
นักเขียนสยองขวัญเบอร์ต้นที่หลายคนจำชื่อได้
เดิมทีภาคินัยเกิดที่จังหวัดสุโขทัย แต่ไปเติบโตที่จังหวัดเพชรบุรี ก่อนจะเข้าเรียนต่อทางด้านสื่อสารมวลชนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จุดเริ่มต้นในการเขียนหนังสือของภาคินัยเกิดจากที่เขาชื่นชอบการเขียนอย่างมาก ทั้งเขียนกลอนและบทความ โดยแรกๆ เขาส่งงานเขียนของเขาไปตีพิมพ์ในนิตยสารต่างๆ เช่น HAMBURGER และ I LIKE รวมถึงยังได้ร่วมทีมเขียนบทละครให้กับทางค่าย RS ในตอนนั้นอย่างเรื่อง รักของนายดอกไม้ (2548) หรือ คุณชายร้ายเล่มเกวียน (2549) ซึ่งเป็นการคิดพล็อตเองของเขาเป็นครั้งแรก
แต่จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนที่ชื่อ ภาคินัย จริงๆ คือในปี 2547 ที่เขาได้มีพ็อกเก็ตบุ๊กเป็นของตัวเองเล่มแรกในชื่อ ความรักกัดขา (วันที่หมาติดปาก) กับสำนักพิมพ์อักขระบันเทิง (Sofa Publishing ในปัจจุบัน) ผ่านการเชิญชวนของ ต้องตา ตั้งชูวงษ์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ในขณะนั้น และปัจจุบันภาคินัยมีผลงานของตัวเองแล้วกว่า 70 เล่ม
ภาพ: หนังสือและละครเรื่อง ‘นางชฎา’
นางชฎา จุดเปลี่ยนของภาคินัย
แม้จะเริ่มมีหนังสือตีพิมพ์เป็นของตัวเองแล้ว ภาคินัยก็มองหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเองจากการเริ่มเขียนนิยายขนาดยาว เขาใช้ความชอบส่วนตัวในการดูหนังระทึกขวัญสยองขวัญ บวกกับการได้แรงบันดาลใจจาก สรจักร ศิริบริรักษ์ นักเขียนเรื่องสั้นแนวเขย่าขวัญชื่อดังของประเทศที่เขาชื่นชอบงานเป็นพิเศษ มาสร้างพล็อตเรื่องที่ชื่อว่า ‘นางชฎา’ เพื่อนำไปเสนอกับทางสำนักพิมพ์
นางชฎา คือเรื่องราวของ ‘เตชิส’ และ ‘ชมพู’ คู่รักที่เลือกซื้อบ้านหลังหนึ่งไกลจากตัวเมืองเป็นเรือนหอ แต่กลับต้องพบกับความผิดปกติบางอย่างคล้ายจะเป็นบ้านที่มีผีสิง และในขณะเดียวกัน ชมพูก็พบว่าเพื่อนในกลุ่มของเธอพากันล้มตายทีละคนจากการแก้แค้นของเพื่อนในอดีตของเธอ
และผลงานเรื่องนี้ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของภาคินัยและสำนักพิมพ์ เพราะหลังจากนิยายวางขาย ช่อง 7HD และโพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็ทาบทามติดต่อเพื่อซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้มาดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ในปี 2558
เวอร์ชันละครโทรทัศน์ของ นางชฎา กำกับการแสดงโดย มะตูม-ปรีดาภรณ์ บัวตูม และมีนักแสดงอย่าง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และ กันต์ กันตถาวร นำแสดง ซึ่งต้องนับว่าเป็นหนึ่งในละครที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของช่อง 7HD ในยุคทีวีดิจิทัล เพราะกวาดเรตติ้งเฉลี่ยไปที่ 11.465 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ตามหลังละครอย่าง บุพเพสันนิวาส และ นาคี
ซึ่งนับเป็นผลงานการดัดแปลงจากบทประพันธ์ของภาคินัยที่แทบจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างแท้จริง นอกจากตัวเรื่องที่สนุกสนานถูกใจคอละครแล้ว ผู้ชมยังติดตามดูความโหดเหี้ยมของผีริลณีที่ตามล้างแค้นเพื่อนๆ ของเธอแบบสาแก่ใจ!
“และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ทั้งของสำนักพิมพ์ Sofa และนักเขียนที่ชื่อ ภาคินัย”
นี่คือข้อความที่อยู่ในบทบรรณาธิการของหนังสืออีกเล่มของเขาที่ชื่อว่า ชฎานาง หลังจากความสำเร็จดังกล่าว ภาคินัยจึงกลายเป็นชื่อที่คอหนังสือและแฟนละครเริ่มรู้จักมากขึ้น และมักจะรอคอยว่าผลงานไหนของเขาจะกลายมาเป็นละครให้ได้ชมอีก แถมนิยายเรื่องนี้ยังฮอตฮิตขนาดว่ามีเวอร์ชันแปลเป็นภาษาอื่นๆ ด้วย
ภาพ: ละครเรื่อง นางแค้น
จากบทประพันธ์สุดสนุกสู่จอโทรทัศน์
ภาคินัยรู้สึกดีใจมากๆ ที่ผลงานของเขาในฐานะนักเขียนบทประพันธ์รุ่นใหม่ได้รับเลือกไปดัดแปลงเป็นละคร เพราะก่อนหน้านี้ละครของแต่ละช่องส่วนใหญ่มักนำมาจากบทประพันธ์ของนักเขียนระดับขึ้นหิ้งทั้งนั้น ประจวบกับการมาถึงของยุคทีวีดิจิทัลที่การแข่งขันสูงขึ้น บทประพันธ์ของนักเขียนรุ่นใหม่ๆ จึงได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อค้นหาความแปลกใหม่ให้กับพล็อตละคร โดยเฉพาะกับงานของภาคินัยที่มักจะมีตัวละครผู้หญิงเป็นตัวดำเนินเรื่อง และมีคาแรกเตอร์ที่ต้องต่อสู้กับความโหดร้ายจากตัวละครอื่นๆ หรือสังคมนั้นๆ ของตัวละคร
“ถือว่าเป็นโอกาสอันดีนะครับที่วงการละครได้มีนิยายของนักเขียนหน้าใหม่มาทำละครออกอากาศ จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ พล็อตใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ๆ ให้คนดูได้ชมเพื่อความบันเทิง”
ภาพ: ละครเรื่อง บ่วงสไบ
นอกเหนือจาก นางชฎา แล้ว ยังมีผลงานของภาคินัยอีกจำนวนมากที่ถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็น นางแค้น ทางช่อง Workpoint 23 ละครที่ว่าด้วยเรื่องการฆาตกรรมและการแก้แค้นในโรงละครคาบาเรต์โชว์ ที่ได้ ปอย ตรีชฎา มาเป็น ‘ซินดี้’ ผีสาวแค้นแรง และสร้างการพูดถึงทั้งในแง่ของเรื่องราวสุดสนุก และการลุยตลาดละครของช่อง Workpoint ได้ในระดับหนึ่ง
รวมถึงยังมีการหยิบเอาบทประพันธ์ชุด 7 วันจองเวรที่ประกอบไปด้วย Ward ห้องคลอดมรณะ, Mirror กระจกสั่งตาย, Haunted อาถรรพ์เรือนลั่นทม, Theater ตีตั๋วไปตาย, Stairs 12 ขั้น…บันไดผี, Reality ท้าคนเป็น เห็นคนตาย และ Holy ศพ-เซ่น-ศาล ไปดัดแปลงเป็นซีรีส์ขนาดยาวด้วยในปี 2558 และยังมีซีซัน 2 ตามออกมาในปี 2560
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบทประพันธ์ของภาคินัยที่นำไปดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ได้น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น บ่วงสไบ (2562) งานแสดงชิ้นสุดท้ายในฐานะนักแสดงช่อง 7HD ของ กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ที่ประชันบทบาทกับ ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ที่การแสดงในบท ‘แก้ว’ ส่งให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมบนเวที Asian Television Awards ครั้งที่ 24, เรือนร่มงิ้ว (2564) ที่เป็นละครสร้างชื่อให้กับทางช่อง 8 หรือ หงส์ในกรงกา (2566) ที่กำลังฉายอยู่ เป็นต้น
ภาพ: K10 Global Content
ทั้งนี้ยังมีผลงานของภาคินัยอีกมากมายที่เตรียมนำไปสร้างเป็นละคร ทั้งที่ยังเป็นโปรเจกต์อยู่หรือเริ่มถ่ายทำไปแล้ว เช่น เรือนชฎานาง ทางช่อง 8, Time หมุนเวลาตาย ที่ปัจจุบันลิขสิทธิ์นั้นอยู่ในมือของค่าย CHANGE2561 ของ ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, The Whisperer ศพกระซิบ ซีรีส์วายที่ตอนนี้อยู่ภายใต้การสร้างของ K10 Global Content
และไม่ได้มีเพียงนิยายสยองขวัญของเขาเท่านั้น แต่นิยายโรแมนซ์หลายๆ เรื่องของเขาเองก็เข้าตาผู้จัดและถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างละครเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ (2556) นำแสดงโดย มิน พีชญา และ เป้ อารักษ์ กับเรื่องวุ่นๆ ของพนักงานห้างสรรพสินค้าที่อยากจะมีเจ้าชายมาสวมรองเท้าแก้วให้ในสักวัน หรืองานอย่าง คุณชายตำระเบิด ละครพล็อตหลุดโลกสุดๆ เรื่องหนึ่งบนหน้าจอละครไทยก็เป็นผลงานของภาคินัย โดยเป็นการนำเสนอพล็อตให้กับทางช่องไปพัฒนาเป็นบท ไม่ได้เป็นนิยายแต่อย่างใด
ภาคินัย นักเขียนที่เขียนด้วยใจ
จากนักเขียนบทความตัวเล็กๆ วันนี้เขาได้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับผลงานของเขาจนกลายมาเป็นผู้ประพันธ์นิยายชั้นดีหลายต่อหลายเรื่อง สร้างสีสันให้กับวงการหนังสือในประเทศไทยอยู่เสมอตลอดระยะเกือบ 20 ปีบนเส้นทางนี้ของเขา จนเขาเปิดสำนักพิมพ์ของตัวเองในชื่อ AMP A BOOK เป็นเครื่องยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสร้างนั้นล้วนมาจากหัวใจของเขาที่รักในการเป็นนักเขียนอย่างแท้จริง ทั้งยังได้รับการยอมรับในแวดวงละครโทรทัศน์ นำบทประพันธ์ไปดัดแปลงเป็นงานอื่นๆ
ภาคินัยเขียนเล่าความรู้สึกของเขาในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงบทประพันธ์เรื่องแรกที่ถูกซื้อไปทำละคร นั่นคือเรื่อง ปมรักรอยอดีต ตอนนั้นเขารู้สึกมันเหมือนฝันมาก และยังเป็นนิยายที่เขาใช้หลักการเขียนบทละครเกือบทั้งเล่ม
มีหลายคนถามผมว่าเอานิยายไปเสนอช่องอย่างไร ติดต่อผู้จัดที่ไหน ผมเองก็ตอบไม่ถูก เพราะไม่เคยเอาไปเสนอ ไม่ได้จะอวดว่าเก่ง ผมแค่เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจเขียนตั้งแต่ตอนเป็นนิยาย ไม่ต้องไปเสนอใคร สักวันผลงานมันจะขายตัวมันเองได้ครับ”
และด้วยพยายามที่ไม่เคยลดละ วันนี้ชื่อของ ภาคินัย ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัยแล้วว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนนิยายสยองขวัญที่น่าจดจำ และงานของเขาจะอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านและผู้ชมตลอดไป
อ้างอิง: