กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในรอบ 3 ทศวรรษ เขย่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จากเดิม 4 เป็น 8 แกนหลัก พร้อมลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท เสริมทัพ Duty Free อีก 10,000 ตารางเมตร รับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรได้ถูกวางให้เป็น Multi-Business ซึ่งจากนี้จะมี 8 แกนหลัก ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจสินค้าปลอดอากร (Travel Retail), กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail), กลุ่มธุรกิจอาหาร (Dining), กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hospitality), กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products), กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences), กลุ่มธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ยังไม่ใช่ Red Ocean! ‘คิง เพาเวอร์’ เอาด้วยตลาดน้ำวิตามิน ส่ง ‘วิตมอรส์’ ลุยสังเวียน 3.5 พันล้านบาท
- เชนโรงแรม The Standard ของแสนสิริ เข้าบริหารโรงแรมในตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ประเดิมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมดีเดย์ปลายปีนี้
- สยบข่าวลือ! อาคมยันไม่เลื่อนเก็บภาษีขายหุ้น ชี้ขั้นตอนตรวจร่าง พ.ร.ฎ. เสร็จเรียบร้อยแล้ว
“การปรับโครงการก็เพื่อสามารถมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ อย่างรวดเร็วและครบครัน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวและการช้อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เติมเต็มทุกความต้องการของชีวิตที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั่วโลก” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน คิง เพาเวอร์ ได้เตรียมเปิด Duty Free ใหม่อีกสองแห่งคือที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) รองรับผู้โดยสารได้ราว 151,000 รายต่อวัน และอีกแห่งบนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD ตั้งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวราว 50,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี โดยรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 20 แบรนด์ไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดตัวคิง เพาเวอร์ มหานคร เต็มรูปแบบ
“เราจะมุ่งเน้น Digital Transformation เพื่อให้องค์กรมีความทันสมัย โฟกัสการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าปัจจุบันและอนาคตมากยิ่งขึ้น (Customer Centric) พัฒนาทั้งในด้านของระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้านบริหารงาน ด้านการขายและหลังการขาย ควบคู่กับการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรและบุคลากร” แม่ทัพคิง เพาเวอร์ กล่าว