วันนี้ (3 มีนาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้อง กรณีที่ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว สืบเนื่องจากการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยศาลฯ พิจารณาให้ศักดิ์สยาม ผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลฯ จะวินิจฉัย
ธนาธรกล่าวว่า กรณีของ ศักดิ์สยามเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนของการอภิปราย และการเป็นผู้แทนราษฎร โดย ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล้าหาญมากที่อภิปรายเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาในสภาผู้แทนราษฎร
โดยมีนิติบุคคลหนึ่ง ชื่อบุรีเจริญฯ ซึ่งตอนที่ศักดิ์สยามมีอำนาจ ได้ขายหุ้นไป แต่พอไม่มีอำนาจก็ซื้อกลับมา ราคาที่ประมูลได้ไปต่ำกว่าราคากลางเพียง 0.3% คู่เทียบราคาประมูลก็เป็นบริษัทที่เคยบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย ปกรณ์วุฒิจึงได้ศึกษาเรื่องนี้และนำไปอภิปราย เพื่อตรวจสอบบริษัทนี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับงานจากรัฐถึงพันล้านบาท
สภาชุดนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคได้รับผลประโยชน์มหาศาล จากสัมปทานที่ดูแล้วมีข้อกังขามากมาย อย่างเช่น กรณีของรถไฟฟ้าสายสีส้มหรือสัมปทานพื้นที่พาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิหรือโครงการประมูลถนนสายใหญ่ๆ
ธนาธรย้ำว่า ตนภูมิใจมากที่ปกรณ์วุฒิกล้าที่จะพูดเรื่องนี้จนนำไปสู่การตัดสินให้ยุติบทบาทในฐานะรัฐมนตรีของศักดิ์สยาม ซึ่งในทางปฏิบัติอาจไม่มีผลอะไร เพราะอีก 2 สัปดาห์ก็จะหมดวาระแล้ว แต่เป็นสัญลักษณ์ให้สังคมเห็นว่า มีคนที่กล้าปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน