Kill Boksoon (คิลบกซุน) ภาพยนตร์ออริจินัลคอนเทนต์จาก Netflix วางวันออกอากาศ 31 มีนาคม 2566 และจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมาล่อตาล่อใจ เราพบว่า ‘ทรงดีมาก’ ด้วยการวางพล็อตเรื่องให้นักฆ่าหญิงคนหนึ่งปกปิดชีวิตด้านมืด เพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวคนเดียวรับรู้ความจริงนี้ และฉากแอ็กชัน ความดราม่าก็เรียกว่าจัดเต็ม พร้อมด้วยเซอร์ไพรส์ที่ จอนโดยอน มารับบทหลักของเรื่องแบบไม่ห่วงสวย เล่นจริง เจ็บจริง จนเรียกได้ว่าเป็นงานภาพยนตร์ที่นำเธอไปสู่มาตรฐานใหม่ของตัวเอง
บยอนซังฮยุน ผู้กำกับภาพยนตร์ Kill Boksoon ได้ให้สัมภาษณ์ THE STANDARD POP จากงาน K-Immersion Event 2023 กรุงโซล เกาหลีใต้ พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนรับชมคลิปตัวอย่างภาพยนตร์ Kill Boksoon (คิลบกซุน) ซึ่งบอกได้เลยว่าตัวอย่างที่ได้เห็น เชื่อว่าทันทีที่เข้าฉายจะกลายเป็นกระแสอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์ Kill Boksoon
Kill Boksoon (คิลบกซุน) เป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของผู้กำกับบยอนซังฮยุน โดยภาพยนตร์ Kingmaker (2022) ผลงานก่อนหน้านี้ ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมทั้งจากเวที Baeksang Arts Awards และ Daejong Film Awards เพราะฉะนั้นถ้าจะให้นึกถึงผู้กำกับรุ่นใหม่มาแรงของเกาหลี ชื่อของบยอนซังฮยุนย่อมเป็นหนึ่งในนั้น
“Kill Boksoon เป็นภาพยนตร์ที่ติดตามเรื่องราวของ คิลบกซุน นักฆ่าคนหนึ่งที่ชีวิตอีกด้านเป็นแม่ของลูกสาววัยรุ่น โดยที่ความจริงเรื่องนี้ลูกสาวของเธอไม่เคยรู้มาก่อน ยิ่งเติบโต ยิ่งมีความลับ ระยะห่างระหว่างแม่กับลูกก็ยิ่งถ่างออก” บยอนซังฮยุนเริ่มต้นเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของภาพยนตร์
ภาพยนตร์ Kill Boksoon เล่าถึงช่วงเวลา 1 สัปดาห์ของ คิลบกซุน ที่ต้องเป็นทั้งแม่และซือเจ๊ มือสังหารระดับตำนานแห่ง MK Ent. บริษัทจ้างวานฆ่าระดับท็อปวงการ เมื่อชีวิตต้องตกอยู่ระหว่างภารกิจที่ต้องสังหารใครสักคนกับภารกิจที่ต้องเลี้ยงดูใครสักคน บกซุนปฏิเสธที่จะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และถูกโยงเข้าไปเอี่ยวกับการต่อสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พล็อตนักฆ่า และความลับ จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ Kill Boksoon
ผู้กำกับบยอนซังฮยุนมักให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยเตรียมโปรเจกต์ใหม่ หรือวางแผนว่าจะทำงานหนังเรื่องอะไรต่อไป สำหรับโปรเจกต์ภาพยนตร์ Kill Boksoon ก็เช่นกัน เขาได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า
“ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยวางแผนล่วงหน้าว่าจะเขียนบทหรือทำโปรเจกต์อะไรในอนาคตครับ ผมเป็นคนที่แค่ปล่อยให้โชคชะตาพัดพาไป จนกระทั่งผมเกิดไอเดียว่าอยากจะเล่าเรื่องราวอะไรน่ะครับ ผมถึงเริ่มต้นโปรเจกต์นั้น ซึ่งมันก็มีช่วงที่ผมไม่มีเรื่องอะไรที่อยากเล่าเลยด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งผมได้พบกันจอนโดยอนเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นมีบทที่เธอเสนอให้ผมทำด้วย ซึ่งผมจำเป็นต้องปฏิเสธไป การได้พบกันทำให้ผมเริ่มคิดถึงเกี่ยวกับจอนโดยอน เธอทำงานมาในหลายบทบาทมากครับ แต่ไม่ค่อยได้เห็นงานแอ็กชัน หลังจากนั้นผมก็โทรหาเธอแล้วถามว่าสนใจจะเล่นหนังแอ็กชันกับผมไหม และเธอก็ตอบตกลง
“พอเราเริ่มต้นโปรเจกต์ด้วยแนวแอ็กชัน ผมก็เริ่มสังเกตตัวตนของจอนโดยอน และเรื่องราวจากภาพยนตร์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากเธอเลยครับ จอนโดยอนมีลูกสาว แล้วเราเคยคุยกันเรื่องนี้ในชีวิตจริงๆ ด้วย มันทำให้ผมนึกถึงจอนโดยอนที่เป็นนักแสดงและเป็นคุณแม่ ขณะเดียวกันถ้าเธอเป็นนักฆ่าและเป็นคุณแม่ด้วยเหมือนกัน มันจะเป็นอย่างไร”
จริงๆ แล้วเรื่องราวเกี่ยวกับนักฆ่าหรือมือสังหารที่ทำงานในรูปบริษัทมีให้เห็นในภาพยนตร์หลายเรื่อง อย่าง John Wick แต่ผู้กำกับบยอนซังฮยุนได้นำเอาพล็อตนักฆ่าที่ถูกผลิตซ้ำ ทั้งเรื่องของการล้างแค้น การช่วยเหลือเด็กผู้หญิงสักคน แล้วจบด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อช่วยเด็กหญิงให้รอดพ้นจากการเรียกค่าไถ่ เขาจัดการทวิสต์เรื่องราวเส้นเรื่องของนักฆ่า ให้เน้นฉากแอ็กชันแบบเต็มพิกัด ขณะเดียวกันยังคงความดราม่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคอนเทนต์เกาหลี
จอนโดยอน นักแสดงที่สุดตลอดกาลของผู้กำกับบยอนซังฮยุน
ผู้กำกับบยอนซังฮยุนยังเล่าถึงการทำงานกับจอนโดยอน นักแสดงที่เขาชื่นชอบที่สุดเอาไว้ว่า “การได้ทำงานกับจอนโดยอนเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อมากครับ บางครั้งตอนที่ผมกำลังดูมอนิเตอร์ ผมก็ชอบคิดกับตัวเองว่านี่เรื่องจริงใช่ไหม
“ตอนที่ผมตัดสินใจจะเป็นผู้กำกับ ในตอนนั้นจอนโดยอนเป็นนักแสดงที่ดังสุดๆ ผมชื่นชอบผลงานของเธอมายาวนาน และพูดในสัมภาษณ์บ่อยๆ ว่าเธอคือนักแสดงที่ผมชื่นชอบที่สุดในเกาหลี เพราะฉะนั้นมันจึงรู้สึกทั้งเหลือเชื่อและรู้สึกแปลกนิดๆ ในเวลาเดียวกันที่ผมได้ทำงานกับเธอ หลังจากได้ร่วมงานกัน ผมเข้าใจได้เลยครับว่าทำไมเธอถึงเป็นนักแสดงระดับท็อปมาตลอดจนถึงทุกวันนี้”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงพลิกบทบาทของจอนโดยอนในฐานะคิลบกซุน ผู้ใช้ชีวิตสองแบบที่ต่างกันสุดขั้ว แต่ยังถ่ายทอดให้เห็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเหล่านักแสดงซึ่งจะมาสร้างพลังที่ทั้งดุดันและน่าทึ่งในหมู่นักฆ่ามืออาชีพ รวมถึงความสนุกสนานจากกลิ่นอายของภาพยนตร์หลากหลายแนวที่เล่าเรื่องราวชีวิตคน โดยมีฉากแอ็กชัน ความระทึกขวัญ และความตลกขบขันเป็นแกนกลาง
“Kill Boksoon เป็นภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องแรกที่จอนโดยอนนำแสดง เธอเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ เลยครับ ก่อนหน้าที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ก็ต้องฝึกซ้อมและเตรียมตัวเยอะมาก ทั้งร่างกายที่แข็งแรง และความมั่นใจว่าจะถ่ายฉากต่อสู้ทั้งหมดได้ด้วยตัวเองโดยไม่มีตัวแสดงแทน นั่นเป็นเพราะว่าการถ่ายทำของเราเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคัตแล้วตัดชน เราใช้การถ่ายทำแบบลองเทกเยอะมาก นั่นทำให้ผมพูดได้เลยครับว่าสำหรับนักแสดงที่ต้องแสดงด้วยตัวเองทุกฉากในภาพยนตร์แอ็กชันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ
“สำหรับฉากแอ็กชัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าแคสต์นักแสดงเป็นที่สุดด้านนี้อยู่แล้ว ผมก็ต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ ซึ่งในฉากแอ็กชันต่างๆ ก็ต้องแสดงคาแรกเตอร์ของตัวละครให้เห็นด้วย เราค่อนข้างโฟกัสเรื่องของสีที่ใช้ในภาพยนตร์มากๆ อย่างบกซุนจะมีสีเด่นประจำตัวของเธอ และมีสีในพาเลตต์อื่นๆ ที่เราใช้ในการสะท้อนตัวตนของแม่ที่เลี้ยงลูกสาวมาเพียงลำพัง
“ผมไม่แน่ใจว่าคนดูจะสังเกตเห็นกันหรือเปล่านะครับ แต่ตอนที่บกซุนเป็นแม่ เราจะเห็นด้านขวาของใบหน้า และตอนที่บกซุนเป็นนักฆ่า เราจะถ่ายให้เห็นด้านซ้ายของเธอเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการวางแผนไว้แบบนี้ทำให้เราต้องคำนวณการทำงาน การวางมุมกล้อง และบล็อกกิ้งนักแสดงให้สมบูรณ์แบบพอสมควรเลยครับ”
เกี่ยวกับผู้กำกับบยอนซังฮยุน
บยอนซังฮยุนเกิดในปี 1980 ที่กรุงโซล เริ่มต้นทำงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักแสดงเด็กตั้งแต่ปี 1987 ก่อนที่จะเรียนด้านการแสดงที่ Seoul Institute of the Arts
บยอนซังฮยุนเป็นผู้กำกับที่เขียนบทด้วยตัวเอง ที่ผ่านมามีผลงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ 4 เรื่อง ได้แก่
- The Beat Goes On (2010) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีฮิปฮอป
- Whatcha Wearin’? (2012) ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้
- The Merciless (2017) ที่ได้รับเชิญให้ฉายใน Midnight Screenings Section เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2017
- Kingmaker (2022) ภาพยนตร์ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) จากเวที Baeksang Arts Awards และ Daejong Film Awards
ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์กระแสหลักในวงการภาพยนตร์เกาหลี บยอนซังฮยุนโดดเด่นด้วยเหล่าตัวละครที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น รวมไปถึงเทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพ (Mise-en-scène) ที่เหนือชั้น นอกจากนี้เขาได้รับยกย่องว่ามีงานกำกับที่มีสไตล์ส่วนตัว วิธีการเล่าเรื่องผ่านตัวละครต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการร้อยเรียงเรื่องราว ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Kill Boksoon (คิลบกซุน) ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างล้นหลามนับตั้งแต่ประกาศไลน์อัพที่มีสองนักแสดงระดับตำนานอย่าง จอนโดยอน และซอลคยองกู โดยล่าสุดได้รับเชิญให้ฉายใน Special Section เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 73 และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
ภาพยนตร์ Kill Boksoon (คิลบกซุน) เขียนบทและกำกับโดย บยอนซังฮยุน นำแสดงโดย จอนโดยอน, ซอลคยองกู, คิมชีอา, อีซม และคูคโยฮวาน ออกอากาศวันแรก 31 มีนาคม 2566 รับชมได้ทาง Netflix
ตัวอย่างภาพยนตร์ Kill Boksoon (คิลบกซุน)
- เช็กลิสต์ Netflix ของผู้กำกับบยอนซังฮยุน “ผมชอบดูสารคดีมากๆ ครับ อย่างเรื่อง My Octopus Teacher, Dont F*** with Cats: Hunting an Internet Killer, Mindhunter ด้วยครับ ผมดูแล้วดูอีกบ่อยมาก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงไม่มีซีซัน 3”
- ผู้กำกับบยอนซังฮยุนเล่าถึงชื่อภาพยนตร์ Kill Boksoon (คิลบกซุน) ไว้ว่า “จริงๆ แล้วชื่อ ‘บกซุน’ เป็นชื่อคนเกาหลีที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้วครับ ขนาดวัยพ่อแม่ผมก็ยังไม่ค่อยมีคนชื่อนี้เลย ส่วนนามสกุล ‘คิล’ มีเสียงคล้ายๆ คำว่า Kill ซึ่งเป็นการเลียนแบบภาพยนตร์ที่ผมชอบมากเรื่อง Kill Bill ของ เควนติน ทารันติโน”