สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานอ้างอิง Memegen ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสนทนาที่พนักงานใช้สื่อสารกันภายในบริษัท ที่แสดงข้อความวิพากษ์วิจารณ์ ซันดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google อย่างเผ็ดร้อน
ความเห็นของพนักงานส่วนใหญ่มองว่า พิชัยรีบร้อนเกินไป กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน ทำให้การพัฒนา Bard ขาดความละเอียดรอบคอบในการทำงาน อีกทั้งการพัฒนายังขาดทีมเวิร์ก และไม่มีความเป็นเฉียบคมแม่นยำอย่างที่ Google เคยเป็น
รายงานระบุว่า ซีอีโอ Google รีบเปิดตัวแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ (Chatbot AI) อย่าง Bard เร็วเกินไป ทั้งๆ ที่แชตบอตดังกล่าวยังไม่มีความพร้อม จนทำให้ Bard ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดในช่วงดำเนินการทดสอบ ฉุดหุ้นของ Alphabet ร่วงลง 9% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามาร์เก็ตแคปที่หายไปอย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.4 ล้านล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Google ต้องกลัวจริงหรือ? เมื่อ Microsoft เกทับว่าเป็นผู้นำวิวัฒนาการยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ต หลังเปิดตัว ‘Bing-Edge’ ที่ผสานรวมกับ ChatGPT
- สงคราม ‘AI’ แชตบอตเดือด Baidu เปิดตัว ‘ERNIE Bot’ ท้าชน ‘ChatGPT’ ของ OpenAI และ ‘Bard’ ของ Google
- ยังไม่ช้า (เกินไป) ใช่ไหม? Google เปิดตัว ‘Bard’ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับ ChatGPT โดยเฉพาะ
Google เปิดตัว Bard เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ ในงานอีเวนต์แห่งหนึ่งในกรุงปารีส ซึ่งระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ทางด้านคู่แข่งอย่าง Microsoft ก็เปิดเผยการใช้งาน ChatGPT บน Bing เสิร์ชเอนจินของทางค่าย ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญให้มาร่วมทดสอบการใช้งาน ChatGPT ผ่าน Bing ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน
บรรดาพนักงาน Google จำนวนหนึ่งระบุว่า ความไม่พร้อมเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ในงานอีเวนต์เปิดตัว Bard ที่กรุงปารีส เนื่องจากคนที่ต้องนำเสนอศักยภาพของ Bard ดันลืมมือถือสำหรับใช้ในการสาธิต ตามด้วยการให้ข้อมูลกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ ที่ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง จนกลายเป็นข่าวเมาท์สนุกปากในวงการเทคโนโลยี
ขณะที่อีกโพสต์หนึ่งระบุว่า พิชัยและทีมผู้บริหาร Google ควรได้รับคะแนนการประเมินในระดับต่ำสุด เพราะการตัดสินใจของผู้บริหารเป็นการมองแค่ในระยะสั้น และขาดความเป็น Google อย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ พนักงานยังวิจารณ์ต่อว่า ทั้งการเปิดตัว Bard และการปลดพนักงานรอบล่าสุดถึง 12,000 คนเป็นการตัดสินใจที่เร่งรีบ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือความล้มเหลว พร้อมวอนขอให้ซีอีโอ Google หันกลับมายึดเป้าหมายระยะยาวดีกว่า
ภาพ: Andrej Sokolow / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง: