กองทัพสหรัฐอเมริกาตัดสินใจยิงบอลลูนสอดแนมจีนขณะลอยอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวานนี้ (4 กุมภาพันธ์) หลังเคลื่อนผ่านหลายพื้นที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงระดับสูงของประเทศ โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ยิงบอลลูนดังกล่าวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อช่วงเช้าวานนี้ไบเดนระบุว่า ทางการสหรัฐฯ จะเฝ้าติดตามบอลลูนนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนที่กองทัพสหรัฐฯ จะเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือขณะที่บอลลูนลอยอยู่เหนือมหาสมุทรและทำลายบอลลูนสอดแนมดังกล่าวแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อประชาชนบนภาคพื้นดิน
เบื้องต้นกองทัพเรือสหรัฐฯ และกองเรือลาดตระเวนชายฝั่งได้เริ่มภารกิจเก็บกู้อุปกรณ์สอดแนมที่ติดอยู่กับบอลลูนจีนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า พวกเขายังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะใช้ระยะเวลาเก็บกู้นานแค่ไหนและจะได้ข้อมูลอะไรบ้างจากอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่เก็บกู้มา ซึ่งซากบอลลูนดังกล่าวร่วงหล่นลงน้ำและกระจายออกไปอย่างน้อยราว 7 ไมล์ (ราว 11 กิโลเมตร)
โดยไบเดนปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีที่ทางการสหรัฐฯ ตัดสินใจยิงบอลลูนสอดแนมดังกล่าวตกว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
ขณะที่ทางการจีนได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นเพียงบอลลูนพลเรือนที่ใช้ในงานวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า การที่บอลลูนเคลื่อนผ่านเข้าไปยังน่านฟ้าของสหรัฐฯ เป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดขึ้นจากความตั้งใจแต่อย่างใด
ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินบอลลูนสอดแนมของทางการจีนที่ส่งไปเก็บข้อมูลและถูกพบเห็นในหลายจุดทั่วลาตินอเมริกา ยุโรป และเอเชีย พร้อมทั้งชี้ว่า คำอธิบายของทางการจีนที่ระบุว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นบอลลูนที่ใช้ในงานด้านอุตุนิยมวิทยานั้นขาดความน่าเชื่อถือ อีกทั้งการล่วงล้ำน่านฟ้าของสหรัฐฯ เป็นระยะเวลาหลายวัน ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถยอมรับได้ จนนำไปสู่การตัดสินใจยิงทำลายบอลลูนสอดแนมนี้ในท้ายที่สุด
ภาพ: Randall Hill / Reuters
อ้างอิง: