×

CPALL – พรีวิว 4Q65 กำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น YoY

02.02.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q65 ของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) คาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CPALL ปรับลดลง 67.25%MoM อยู่ที่ระดับ 67.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.02%MoM สู่ระดับ 1,685.75 จุด

 

พรีวิวผลประกอบการ 4Q65:

InnovestX Research คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 3.6 พันล้านบาท ลดลง 46%YoY และ 3%QoQ หากตัดขาดทุนพิเศษจำนวน 129 ล้านบาทจากค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดของ MAKRO (ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CPALL) ออกไป ประเมินว่ากำไรปกติ 4Q65 ได้ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%YoY แต่ลดลง 3%QoQ 

 

โดยกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น YoY ได้แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่ฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยชดเชยส่วนแบ่งกำไรจาก MAKRO ที่ลดลงหลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น 

 

ใน 4Q65 คาดว่าธุรกิจ CVS ดีขึ้นใน 4Q65 โดยคาดว่า SSS จะเติบโต 12%YoY (เทียบกับ 1.3%YoY ใน 4Q64 และ 22.1%YoY ใน 3Q65) โดยเกิดจากฐานต่ำของปีก่อนอันเป็นผลมาจากมาตรการเคอร์ฟิว กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การกลับมาของนักท่องเที่ยว และอีเวนต์ World Cup ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้ ประเมินว่า CPALL เปิดร้านสะดวกซื้อใหม่ 174 สาขาใน 4Q65 ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีสาขาสุทธิ 13,834 สาขา ณ สิ้น 4Q65 (เพิ่มขึ้น 5%YoY และ 1%QoQ) 

 

อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น YoY จากการมียอดขายสินค้ากลุ่มของใช้ส่วนตัวและสินค้ากลุ่ม Ready-to-Eat & Drink ที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวและการตัดสินใจซื้อแบบฉับพลันที่เพิ่มขึ้น 

 

การปรับราคาสินค้าอาหารขึ้นอีก เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนและไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายระดับสูง สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด เช่น ค่าใช้จ่ายจากการจัดการระบบขนส่ง เพื่อเติมสินค้าให้ร้านสำหรับชั่วโมงทำการที่สั้นลงเหมือนใน 4Q64 เกิดขึ้นอีก อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขายมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น QoQ จากค่า Incentive และค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น

 

ด้านส่วนแบ่งกำไรจาก MAKRO ลดลง YoY CPALL มีสัดส่วนการถือหุ้น 60% ใน MAKRO ใน 4Q65 เทียบกับ 72% ใน 4Q64 InnovestX Research คาดว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นจะส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจาก MAKRO ใน 4Q65 ลดลง YoY แม้ MAKRO (ถือหุ้น 99.99% ใน Lotus’s ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2564) น่าจะรายงานกำไรปกติ 4Q65 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%YoY 

 

โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจ B2B ที่ยอดขายสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยชดเชยธุรกิจ B2C ที่อ่อนแอลง เพราะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลกระทบต่อเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้น 67%QoQ เพราะธุรกิจ B2B และธุรกิจ B2C ปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล 

 

สำหรับธุรกิจ B2B ประเมินกำไรปกติที่ 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%YoY และ 53%QoQ โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะยอดขายที่สูงขึ้น (SSS เติบโต 9%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นในระดับทรงตัวช่วยชดเชยอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขายที่สูงขึ้น สำหรับธุรกิจ B2C กำไรปกติน่าจะอยู่ที่ 272 ล้านบาท ลดลง 31%YoY เพราะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไปหักล้างยอดขายที่สูงขึ้น (SSS เติบโต 1.5%YoY และรายได้ค่าเช่าแข็งแกร่งขึ้น) แต่ดีกว่า 29 ล้านบาทใน 3Q65 จากปัจจัยฤดูกาล  

 

กลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นใน 1Q66TD ช่วยหนุนให้ SSS เติบโตสูงกว่าตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY โดยคาดว่ากำไรปกติ 1Q66 จะเติบโต YoY โดยเกิดจากยอดขายทั้งจากธุรกิจ CVS และ MAKRO ที่ดีขึ้น และอย่างน้อยจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

 

InnovestX Research ให้เรตติ้ง OUTPERFORM สำหรับ CPALL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 78 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า CPALL จะรายงานกำไรปกติเติบโต 25%YoY ในปี 2566 สู่ 1.8 หมื่นล้านบาท 

 

โดยการเติบโต 9% จะเกิดจากส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก MAKRO และ Lotus’s เพราะยอดขายและมาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้นและการผนึกกำลังทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และที่เหลือเกิดจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ฟื้นตัวดีขึ้น เพราะ SSS ดีขึ้นจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมาร์จิ้นฟื้นตัวจากการมีสัดส่วนการขายที่ดีขึ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X