การล่มสลายของเว็บเทรด FTX เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อระบบนิเวศคริปโตเคอร์เรนซีและบริษัทมากมาย ล่าสุดทาง FTX ได้เปิดเผยรายชื่อเจ้าหนี้ทั้งหมดแล้ว โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังอย่าง Google, Amazon, Meta, Microsoft, Netflix, LinkedIn และ Apple โผล่อยู่ในรายชื่อเจ้าหนี้ด้วย นอกจากนี้สื่อต่างๆ เช่น Bloomberg Finance, The Wall Street Journal และ CoinDesk รวมถึงบริษัทสายการบิน โรงแรมและการท่องเที่ยวหลายแห่งก็ล้วนเป็นเจ้าหนี้ของ FTX ทั้งสิ้น
‘เทคโนโลยียักษ์ใหญ่’ โผล่รายชื่อเจ้าหนี้ FTX
เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ทนายความของ FTX ได้เปิดเผยรายชื่อเจ้าหนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความยาวมากถึง 115 หน้า โดยเป็นการเรียงรายชื่อเจ้าหนี้ตามลำดับตัวอักษร
รายชื่อเจ้าหนี้ที่ถูกเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของอดีตเว็บเทรดชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทคริปโต สถาบันการเงิน บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ และสำนักข่าวชื่อดังหลายแห่งอีกด้วย
บรรดาเจ้าหนี้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมคริปโต ได้แก่ Coinbase, Circle, Galaxy Digital และ Binance Capital Management รวมถึง BlockFi และ Genesis Global ซึ่งยื่นขอล้มละลายไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้บริษัทวิจัยคริปโตอย่าง Chainalysis, TRM Labs และ Nansen ก็ล้วนเป็นเจ้าหนี้ของ FTX ด้วยเช่นกัน
ธนาคารยักษ์ใหญ่และสถาบันการเงินทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกาที่เป็นเจ้าหนี้ FTX ยังรวมถึง Citigroup, Silvergate, Goldman Sachs, JPMorgan Chase, DBS Bank, Bank of Cyprus, Commercial Bank of Dubai, BlackRock, Sequoia Capital และ Pantera Capital
บรรดาเจ้าหนี้ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น Ant Group, Google, Amazon, Meta, Microsoft, Netflix, LinkedIn, Twitter และ Apple สื่อต่างๆ รวมถึง Bloomberg Finance, The Wall Street Journal, CoinDesk, Benzinga และ Condé Nast ก็เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของ FTX
บริษัทนอกอุตสาหกรรมคริปโตก็ไม่เว้น
ที่น่าสังเกตคือ บริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโตหรือการเงิน เช่น หน่วยงานของภาครัฐ บริษัทที่เกี่ยวข้องโรงแรม การท่องเที่ยว และสายการบิน ก็โผล่มาอยู่ในรายชื่อเจ้าหนี้ด้วย บริษัทเหล่านี้ ได้แก่ Grand Hyatt, Airbnb, Alaska Airlines, American Airlines, Apollo Jets, British Airways, Uber Eats และ DoorDash
อย่างไรก็ตาม เอกสารดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินที่เป็นหนี้กับเจ้าหนี้แต่ละราย
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง: