ในที่สุด NFL ก็เดินทางมาถึงสี่ทีมสุดท้ายหรือรอบชิงแชมป์คอนเฟอเรนซ์กันแล้ว
โฟร์ตี้นายเนอร์สดับคาวบอยส์ เข้าไปเจออีเกิ้ลส์ซึ่งไล่ต้อนไจแอนท์สกระจุย ในการชิงแชมป์ทาง NFC
เบงกอลส์พลิกล็อกนิดหน่อย เล่นงานบิลล์สคาบ้าน ได้เจอกับโจทก์เก่าชีฟส์ ในการชิงแชมป์ทาง AFC
แม้ชีฟส์จะผ่านแจกัวร์สมาด้วยทรงเกมไม่ถึงกับยาก แต่สภาพทีมพวกเขาไม่เต็มร้อยเนื่องจาก แพทริก มาโฮมส์ ควอร์เตอร์แบ็กคนสำคัญบาดเจ็บหน้าแข้ง
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้แฟนๆ NFL จะพบกับเกมที่สุดสูสีทั้งสองคู่ในสายตาทั้งผู้เชี่ยวชาญทางการวิเคราะห์อย่างสื่อใหญ่ๆ หลายแห่ง จนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการเดิมพันอย่าง ลาส เวกัส
ขณะนี้อีเกิ้ลส์ดูเหนือกว่าโฟร์ตี้นายเนอร์สอยู่ 2.5 คะแนน ขณะที่เบงกอลส์เหนือกว่าชีฟส์ 1.5 คะแนน
นับตั้งแต่มีการรวมลีกกันเมื่อปี 1970
เคยมีเหตุการณ์ที่คู่ชิงคอนเฟอเรนซ์ทั้งสองฝั่งมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันเรื่องฝีมือแบบไม่เกิน 3 คะแนนเพียงแค่สองหนเท่านั้น
ครั้งแรกคือ 1983 คาวบอยส์ (-2) กับ เร้ดสกินส์ ทาง NFC และ เจ๊ตส์ กับ ดอลฟินส์ (-2) ทาง AFC
ครั้งที่คือ 1998 แพคเกอร์ส (-2.5) กับ โฟร์ตี้นายเนอร์ส ทาง NFC และ บรองโก้ส์ (-2.5) กับ สตีลเลอร์ส ทาง AFC
อดัม พัลเล่น ผู้ช่วยฝ่ายอำนวยการส่วนการเทรดของซีซ่าร์สบอกว่า
“ทั้งสี่ทีมสามารถเป็นแชมป์ได้ทั้งหมด พวกเขามีความเหมาะสม แน่นอนว่ากับสถานการณ์ของแคนซัส ซิตี้ เพราะมาโฮมส์บาดเจ็บ จึงทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นต่ออย่างที่ควร แต่มันก็ทำให้สี่ทีมสุดท้ายสูสีกันมากสุดในรอบหลายปี ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหนก็ตาม”
เกมชิงแชมป์ NFC จะแข่งเวลา 03.00 น. เช้าวันจันทร์ที่ 30 มกราคม
(2) ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส เยือน (1) ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์
สองทีมเก่งสุดของคอนเฟอเรนซ์โคจรมาถึงรอบนี้จนได้ พวกเขาไม่เคยเจอกันระหว่างฤดูกาลปกติมาก่อน
ฟิลาเดลเฟียได้เปรียบตรงควอเตอร์แบ็กดูมีชื่อชั้นกว่า อย่าง เจเลน เฮิร์ตส์ อีกทั้งยังมีอาวุธรอบตัวให้ใช้งาน ทั้งสองปีกนอก เอ.เจ.บราวน์ และ เดวอนเท อดัมส์, ปีกใน ดัลลัส โกเดิร์ต กับ รันนิ่งแบ็ค ไมล์ส แซนเดอร์ส
คำถามก็คือเฮิร์ตส์ยังปวดไหล่จากที่เคยเจ็บเดือนก่อนมากแค่ไหนแล้ว
ขณะที่โฟร์ตี้นายเนอร์สอาจได้ใช้งานเพียงควอเตอร์แบ็กมือสาม บร็อก เพอร์ดี้ (ดราฟต์คนสุดท้ายของปี 2022) แต่เขาอยู่ในระบบที่เป็นมิตรกับควอเตอร์แบ็กของยอดโค้ช คายล์ เชเนแฮน และยังมีตัวช่วยสร้างเพลย์มากมาย ไล่ตั้งแต่ ปีกใน จอร์จ คิทเทิ่ล, ปีกนอก ดีโบ้ ซามูเอล และ รันนิ่งแบ็ก คริสเตียน แม็คแคฟฟรี่ย์ ทำให้ศักยภาพเกมบุกของทีมยังดูแข็งแกร่ง
แม้มีโอกาสเล็กๆ ที่ จิมมี่ การ็อปโปโล่ อดีตมือหนึ่ง จะหายกลับมาแข่ง แต่ในเมื่อเพอร์ดี้เป็นคนพาทีมมาถึงขั้นนี้ หลังจาก จิมมี่ จี บาดเจ็บกระดูกเท้าแตก เมื่อสัปดาห์ 13 น่าจะไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึกแล้ว
เพอร์ดี้ผ่านบททดสอบทีมรับแข็งแกร่งอย่างคาวบอยส์ มาด้วยการออกอาวุธรัดกุม ไม่ผิดพลาดเสียเทิร์นโอเวอร์
หนนี้เขาต้องเจอบททดสอบที่ยากขึ้นอีก เพราะทีมรับฟิลาเดลเฟียปล่อยควอเตอร์แบ็กคู่แข่งขว้างทำระยะต่อครั้งแค่ 5.5 หลา น้อยสุดในลีก
ขณะเดียวกัน ทีมรับโฟร์ตี้นายเนอร์สก็ไม่ธรรมดา ปล่อยควอเตอร์แบ็กคู่แข่งขว้าง ทำระยะต่อครั้ง 6.4 หลา และถือบอลวิ่งใส่พวกเขาแค่ 3.4 หลาต่อครั้ง น้อยสุดของลีก
อินเทอร์เซ็ปต์ยังได้มากกว่าฟากอีเกิ้ลส์ 20-17 ครั้งด้วย
ดูแล้วน่าจะเป็นเกมสูสีมาก อาจวัดกันตรงความเก๋า
โฟร์ตี้นายเนอร์สชุดนี้เคยเข้าซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 54 หรือเมื่อสามปีก่อน แม้เฮิร์ตส์ เองอาจดูประสบการณ์น้อย แต่ก็สะสมพรรษามาแล้วสามปี ต่างจากเพอร์ดี้
ทำไมอีเกิ้ลส์น่าจะเข้าซูเปอร์โบวล์: กวาดตามองทั้งคอนเฟอเรนซ์ก็มีโฟร์ตี้นายเนอร์สนี่แหละที่ตัวผู้เล่นกับผลงานอยู่ในขั้นสูสีกับอีเกิ้ลส์มากสุด แต่ถ้าภาพรวมตรงแนววางลูกอีเกิ้ลส์มีสถิติดีกว่า ทั้งการบล็อกในแผนขว้าง และตัวโจมตีเมื่อคู่แข่งจะขว้าง
ฮาสัน เร้ดดิก แซ็คมาทั้งหมด 17.5 ครั้ง (รวมเพลย์ออฟ) มีโอกาสสร้างบิ้กเพลย์ เพราะจะบุกเข้าทางแท็คเกิ้ลขวา ไมค์ แม็คกลินชี่ย์ ไม่ได้ไปทาง เทรนท์ วิลเลี่ยมส์ ที่ปักหลักอยู่ทางซ้าย
แม้เกมบุกนายเนอร์สตั้งแต่เพอร์ดี้เป็นตัวจริง ดูสถิติสวย แต่ถามใครก็ตามที่ดูฟุตบอลเป็น ก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเฮิร์ตส์เก่งกาจกว่า
ทำไมโฟร์ตี้นายเนอร์สน่าจะเข้าซูเปอร์โบวล์: กึ๋นในการวางแผนของโค้ชเชเนแฮน ออกแบบให้เกมบุกของเขา ลดทอนประสิทธิภาพและความน่าเกรงขามของทีมรับอีเกิ้ลส์
ทั้งแม็คแคฟฟรี่ย์, ซามูเอล กับ คิทเทิ่ล คือตัวรับบอลอย่างหลากหลาย แม้อีเกิ้ลส์จะมี คู่ตัวคุมปีกเก่งสุดคู่หนึ่งของลีก ทั้ง เจมส์ แบร็ดเบอร์รี่ กับ แดเรียส สเลย์
ขณะที่ นิก โบซ่า ยอดตัวโจมตีพวกเขา จะดวลแค่ จอร์แดน ไมลาต้า ซึ่งซีซันนี้มีอัตราการชนะบล็อกในแผนขว้างแค่อันดับ 56 จากทั้งหมด 64 คน
เกมชิงแชมป์ AFC จะแข่งเวลา 06.30 น. เช้าวันจันทร์ที่ 30 มกราคม
(3) ซินซินเนติ เบงกอลส์ เยือน (1) แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์
ชีฟส์, เบงกอลส์, แพทริก มาโฮมส์, โจ เบอร์โรว์, แอร์โรว์เฮด สเตเดียม มีเดิมพันด้วยการเข้าซูเปอร์โบวล์
ฟังดูเหมือนเดจาวูใช่ไหม?
ใช่แล้ว ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันรอบชิงแชมป์ AFC เมื่อปีก่อน โดย ซินซินเนติ คัมแบ็กจากเป็นรอง 18 คะแนน มาเอาชนะต่อเวลา หลุดเข้าซูเปอร์โบวล์หนแรกในรอบ 33 ปี
เมื่อรวมผล เบงกอลส์เคยชนะย้ำแค้น 27-24 สัปดาห์ 13 เท่ากับสองทีมนี้ สู้กันมาแล้วสามครั้งนับจากสตาร์ทฤดูกาล 2021 โดยซินซินเนติเป็นฝ่ายชนะสามแต้มทุกเกม
มาโฮมส์ สถิติ 1-3 เวลาสู้กับเบงกอลส์ บาดเจ็บหน้าแข้งจนทำให้เคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว แต่เขายังปาเข้าเป้า 22 จาก 30 ครั้ง 195 หลา สองทัชดาวน์ในช่วงครึ่งหลัง เผด็จศึกใส่แจกัวร์สสำเร็จ
เขายืนยันว่าจะลงสู้เบงกอลส์ได้
ตามปกติ เมื่อมาโฮมส์แกะเทปพันข้อเท้าออกหลังแข่งจบ ช่วงสองสามวันให้หลังขาจะบวมเป่งและปวดอย่างมาก
ปีนี้ แม็ก โจนส์ ควอเตอร์แบ็กเพเทรียตส์ก็เคยบาดเจ็บหน้าแข้งหนักขนาดต้องเตรียมผ่าตัด พอฝืนกลับมาแข่งก็ฟอร์มสะดุดอย่างชัดเจน
ปีก่อนเฮิร์ตส์ของอีเกิ้ลส์เคยเจ็บลักษณะคล้ายกันจนต้องผ่าตัดรักษา หรือการ็อปโปโล่เองก็เจ็บแบบนี้ ปี 2020 พักอยู่ครึ่งเดือน กลับมาไม่ทันไรก็อาการกำเริต้องปิดเทอมยาว
ไม่ว่าจะอาการหนักแค่ไหน การพักแข่งแค่สัปดาห์เดียวก็คงแทบไม่ช่วยลดทอนความปวด
ชีฟส์ไม่ยอมเผยไต๋รายงานระดับความรุนแรงออกมา ถ้ามาโฮมส์เจ็บขั้นหนึ่งพักราวสองถึงสามสัปดาห์ก็หายได้ ขั้นสองต้องเกินเดือน และขั้นสามคือจำต้องผ่าตัด
หนล่าสุดที่สองทีมสู้กันเมื่อเดือนธันวาคม ทีมรับเบงกอลส์ปล่อยให้มาโฮมส์ขว้างคอมพลีตเพียง 16 จาก 27 ครั้ง (223 หลา หนึ่งทัชดาวน์) ถือเป็นการคอมพลีตน้อยสุดของเขาซีซันนี้
ขณะเดียวกันเบอร์โรว์เคยขว้างใส่ชีฟส์ คอมพลีต 25 จาก 31 ครั้ง สองทัชดาวน์ วิ่งเองอีกสกอร์
เขาคือควอเตอร์แบ็กคนเดียวในลีกที่ปราบมาโฮมส์สามหนติด วันนั้นยังได้กำลังหนุนชั้นดี ซามาเจ พีรายน์ ตำแหน่งรันนิ่งแบ็ก วิ่งได้ 106 หลา
ส่วนการเจอบิลล์สสัปดาห์ที่ผ่านมา โจ มิกซั่น วิ่งตะลุย 105 หลา หนึ่งสกอร์
เกมป้องกันเบงกอลส์ก็น่าชื่นชม เสียให้บิลล์สเพียง 10 คะแนน และควอเตอร์แรก ทำให้เจ้าบ้านมีระยะแค่ 8 หลา
ทำไมชีฟส์น่าจะเข้าซูเปอร์โบวล์: ต่อให้มาโฮมส์ในสภาพขากะเผลก ก็ยังเป็นควอเตอร์แบ็กเก่งระดับท็อปเทน แน่นอนอาการเจ็บทำให้มีข้อจำกัด แต่เขายังมีออฟเฟ้นซีฟไลน์ชั้นยอดคอยปกป้อง มีโค้ชเรียกเพลย์เก่งกาจแบบ แอนดี้ หรีด มีปีกในห้าดาว แทรวิส เคลซี่ ซึ่งเพิ่งรับใส่แจกัวร์สมา 14 ครั้ง จนดูแล้วไม่น่าจะมีใครประกบเขาได้
ทีมรับชีฟส์ยังถอยกองหลังลึก สามารถรับมือ จามาร์ เชส ปีกตัวแสบเบงกอลส์ไม่ให้มีบิ้กเพลย์ริมเส้น
แต่ผู้เล่นปัจจัยสำคัญ ได้แก่ คริส โจนส์ ดีเฟ้นซีฟแท็คเกิ้ล ซึ่งฤดูกาลนี้เอาชนะตัวบล็อกคู่แข่งได้ถึง 79 หน มากสุดในลีก และเหนือกว่าดีเฟ้นซีฟแท็คเกิ้ลคนอื่นในลีกอย่างน้อย 26 ครั้ง
ออฟเฟ้นซีฟไลน์ เบงกอลส์ เปลี่ยนสามตัวจริงเนื่องจากอาการบาดเจ็บ และมีอัตราการชนะบล็อกในแผนขว้างแค่อันดับ 31 จะรับมือโจนส์ได้แค่ไหน?
ทำไมเบงกอลส์น่าจะเข้าซูเปอร์โบวล์: ความได้เปรียบชัดเจนสุดก็คือ ตำแหน่งควอเตอร์แบ็ก เพราะเบอร์โรว์สภาพร่างกายยังดีเยี่ยม ถ้าเขามีเวลาปาลูก สองปีกนอก เชส และ ที ฮิกกิ้นส์ ฝีมือดีกว่ากองหลังชีฟส์พอตัว
เชสเคยรับ 97 หลา ตอนชนะแคนซัส ซิตี้เมื่อธันวาคม
เบงกอลส์ใช้วิธีลดทอนปัญหาออฟเฟ้นซีฟไลน์ตัวเจ็บ ด้วยการให้เบอร์โรว์ปล่อยบอลเร็ว เฉลี่ยแค่ 2.5 วินาที
ถ้าเกมบุกสามารถเปล่งประสิทธิภาพได้ตามหวังละก็ เบงกอลส์ดูได้เปรียบเต็มประตู
พวกเขามีศักยภาพเกมป้องกันต่อเพลย์ดีสุดอันดับ 9 ก่อนจะสยบแอลเล่นและบิลล์ส ส่วนชีฟส์อยู่อันดับ 15
นอกจากนี้ ทีมพิเศษชีฟส์ยังถือว่าแย่สุดในลีกอีกต่างหาก
อีกอึดใจเดียวเราจะได้รู้กันแล้วว่าใครคือสองทีมที่ได้หลุดไปสู่เวทีสุดท้ายของฤดูกาล
ซูเปอร์โบวล์ ครั้ง 57 จะแข่งขันกันเช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลาไทย
