เอ่ยชื่อของ ‘ซนฮึงมิน’ แล้วเชื่อว่าต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนกีฬาที่ติดตามชมฟุตบอลก็อาจจะเคยได้ยินชื่อของซูเปอร์สตาร์นักเตะทีมชาติเกาหลีใต้รายนี้กันบ้าง (แต่ถ้าไม่เคยได้ยิน ขอแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ!)
ซนฮึงมิน หรือ ‘ซูเปอร์ซอนนี’ ของแฟนๆ ทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นหนึ่งในนักกีฬาชาวเอเชียที่โด่งดังและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก จากการที่มีโอกาสไปค้าแข้งในวงการฟุตบอลยุโรปตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่งอายุแค่ 16 ปี กับทีมฮัมบูร์ก ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และย้ายมาสเปอร์สในปี 2015 สร้างผลงานโดดเด่นถึงขั้นเคยเป็นดาวซัลโวร่วมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2021/22 มาแล้ว
แต่กว่าที่กองหน้าวัย 30 ปี จะประสบความสำเร็จได้ในระดับนี้ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะ เรียกว่าถ้าคุณเคยดู ‘เมสซีเจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่าเรื่องความเป็นมา “คุณไม่รู้หรอกว่าผมถูกสร้างมาอย่างไร” ในรายการ The Secret Sauce แล้ว เรื่องราวของซนฮึงมินก็ทัชใจไม่น้อยไปกว่ากัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธ จงใช้มันเป็นแรงผลักดัน’ บทเรียนสำคัญจากสุนทรพจน์ของ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’
- คำบอกเล่าจากพนักงานที่ทำงานร่วมกันกว่า 10 ปี! นี่คือสิ่งที่ สตีฟ จ็อบส์ สอนพนักงานหากต้องการเดินไปบนหนทางแห่งความสำเร็จ
- น้ำตา เจ ชนาธิป “คุณไม่รู้หรอกว่าผมถูกสร้างมาอย่างไร”
อย่างไรก็ดี วันนี้เราไม่ได้จะมาคุยกันถึงเรื่องความหลังอะไร แต่เราจะมาแชร์กันถึงเคล็ดลับเล็กๆ 3 ประการที่ซอนนีได้แบ่งปันผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานี CNBC ที่เป็นความลับสู่ความสำเร็จของเขา
ว่าแต่มีอะไรบ้างนะ?
1. กินอิ่ม นอนหลับ โฟกัสสิ่งที่สำคัญ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง น้องสมองก็ต้องการหมอนเหมือนกัน และนั่นคือเคล็ดลับอย่างแรกที่ซนฮึงมินเน้นก่อนอย่างอื่น
“นอนให้ดี กินให้ดี”
ส่วนหลังจากนั้นซนฮึงมินบอกว่า เมื่อมีเวลาก็ขอให้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เช่นในกรณีของเขาที่ต้องไปสนามซ้อมทุกวัน เขาก็ไม่ได้แค่ซ้อมตามหน้าที่แล้วกลับบ้าน แต่เลือกที่จะโฟกัสกับการพัฒนาตัวเอง โดยไม่เสียสมาธิไปกับสิ่งเย้ายวนใจต่างๆ
“ผมอยู่สนามซ้อมวันหนึ่ง 6-8 ชั่วโมง จริงๆ มันก็มีเวลาเหลือเยอะแยะและตัวเลือกมากมาย อย่างการเล่นเกมหรือเล่นกับเพื่อน แต่อย่างแรกที่สำคัญที่สุดที่ควรคิดถึงอย่างกรณีของผมก็คือการเล่นฟุตบอล”
ทำมากได้มาก เพราะเหตุนี้ซอนนีถึงเก่งไง
2. ความสุขอยู่รอบกาย
ชีวิตการเล่นฟุตบอลอันเคี่ยวกรำทำให้ซนฮึงมินได้เรียนรู้อะไรเยอะ โดยเฉพาะการเป็นนักฟุตบอลเอเชียที่ต้องมาค้าแข้งอยู่ในยุโรป
ซอนนีพบบทเรียนอันหนึ่งที่มีค่ามากคือ เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเพื่อค้นหาความสุข
“ผมคิดว่าบทเรียนที่ผมได้รู้คือ เราไม่จำเป็นต้องไล่ตามหาความสุขเลย”
ในความเห็นของเขา ความสุขมีอยู่รอบตัวเรา อยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่แหละ เช่น ของเขาคือครอบครัวและการเล่นฟุตบอล ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนเดินในทุ่งลาเวนเดอร์นิดหน่อย แต่ครอบครัวหรืองานก็เป็นความสุขของคนไม่น้อยอยู่นะ
สำหรับเรื่องนี้ เขายกตัวอย่างว่าในฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา ความจริงซอนนีไม่น่าจะได้ไปลงสนามแล้วเพราะบาดเจ็บที่กระดูกเบ้าตาก่อนทัวร์นาเมนต์ไม่นาน แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนคิดบวก มันเลยทำให้สุดท้ายเขาพยายามจนลงแข่งได้ต่อให้ต้องสวมหน้ากากป้องกันการกระแทกก็ตาม
“ความสุขคือสิ่งที่สำคัญที่สุดนะ”
3. อย่าแบกโลกไว้คนเดียว
สำหรับนักกีฬาอาชีพในปัจจุบัน นอกจากการแบกรับความคาดหวังมหาศาลจากแฟนฟุตบอล รวมถึงแรงกดดันจากการต้องสร้างผลงานให้แก่ทีม อีกส่วนที่พวกเขาต้องเผชิญในขณะที่นักกีฬาสมัยก่อนไม่ต้องเจอ คือเรื่องของการตกเป็นเป้าในโซเชียลมีเดีย
บนโลกโซเชียลมีเดียนั้นมีคนหลากหลาย แฟนๆ ที่ดีน่ารักมีจำนวนมาก แต่แฟนๆ สายดาร์กก็เยอะ ซึ่งกลุ่มหลังนี้เองที่เป็นปัญหา เพราะความเกลียดชังมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ทำให้นักกีฬาจำนวนมากในปัจจุบันประสบปัญหาเรื่องสุขภาพจิต
สำหรับซอนนีเขาบอกว่าเรื่องนี้สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ด้วยการเปิดใจพูดคุยและปรึกษากับครอบครัว ซึ่งเขาทำทุกครั้งที่ชีวิตประสบปัญหา
“เวลาที่ผมเสียใจ พวกเขาก็เสียใจด้วย แต่ถ้าเรามีความสุข เราก็จะมีความสุขไปด้วยกัน” ซอนนีบอก
“เราสามารถแบ่งปันความรู้สึกกันได้เสมอ ครอบครัวคือคนที่พร้อมช่วยเราเสมอ”
และนี่คือเคล็ดลับเล็กๆ หรือเราอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเคล็ดเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ที่ซนฮึงมินแบ่งปันให้ทุกคน ซึ่งแน่ล่ะไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักกีฬาอาชีพเหมือนเขา แต่เชื่อว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะ 🙂
อ้างอิง: