วานนี้ (19 มกราคม) ทางการจีนเปิดเผยว่า จีนได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดของโควิดแล้ว โดยขณะนี้อัตราการติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม การที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นสถานการณ์ที่หลายฝ่ายกำลังจับตา เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้ยอดการติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกทั่วประเทศ
ซุนชุนหลาน (Sun Chunlan) รองนายกรัฐมนตรีและผู้ดูแลด้านการรับมือโควิดของจีน กล่าวว่า ขณะนี้การระบาดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดในคลินิก ห้องฉุกเฉิน และหอผู้ป่วยวิกฤต ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการที่ประชาชนจำนวนมหาศาลจะเดินทางกลับบ้านเกิดของตนเองนั้นอาจทำให้ยอดการติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นได้อีกระลอก โดยกระทรวงการคมนาคมคาดการณ์ว่า ในระหว่างวันที่ 7 มกราคม จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะมีการเดินทางสัญจรในจีนมากถึง 2.1 พันล้านครั้ง
ด้านหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของจีน กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ทางการจะเซ็นเซอร์ ‘ข้อมูลปลอม’ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังพื้นที่ชนบทซึ่งมีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ พร้อมย้ำว่าต้องปกป้องดูแลผู้สูงอายุให้ดี เนื่องจากยังมีกลุ่มคนสูงอายุจำนวนมากที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดส อีกทั้งยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดูแลป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สถาบัน Health Metrics and Evaluation (IHME) ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยแบบจำลองทางการแพทย์ที่คาดการณ์ว่า การยกเลิกมาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดอย่างกะทันหันของจีนอาจทำให้การแพร่ระบาดของโรคลุกลามอย่างหนัก จนส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตทะลุ 1 ล้านคนในปีนี้
ด้านผู้เชี่ยวชาญรายอื่นๆ คาดการณ์ว่า ประชากรราว 60% ของจีนจะติดเชื้อในท้ายที่สุด โดยจุดพีคจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด เช่น ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว
ภาพ: VCG / VCG via Getty Images
อ้างอิง: