Masan Group ยักษ์ค้าปลีกเวียดนาม เปิดแบรนด์ใหม่ ‘Win’ เสริมทัพ WinMart เร่งขยายสาขา ตั้งเป้าให้แตะ 10,000 แห่งภายในปี 2025 รับมือการแข่งขันสูงหลังทุนไทย-ญี่ปุ่น แห่บุกชิงลูกค้าอย่างหนัก
Nikkei Asia รายงานว่า เวียดนามถือเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ อย่าง Central Retail ของประเทศไทยได้ทุ่มเงิน 3 หมื่นล้านบาท (861 ล้านดอลลาร์) เพื่อขยายร้านค้าในเวียดนามเป็น 2 เท่า หรือมากกว่า 710 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตลาดเวียดนามเนื้อหอมไม่หยุด ‘ศรีนานาพร’ เจ้าของเบนโตะและเจเล่ ลงทุน 700 ล้านตั้งโรงงานถึงถิ่น หวังปั๊มยอดขาย 2,000 ล้าน ภายใน 5 ปี
- สมรภูมิค้าปลีกเวียดนามแข่งเดือด ‘เซ็นทรัล รีเทล’ เร่งเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต ตั้งเป้าทำรายได้ 1 แสนล้าน ภายในปี 2569
- เปิดจุดเด่น เวียดนาม หลังจ่อขึ้นแท่นประเทศที่คว้าชัยในยุค Deglobalization
ขณะที่ Aeon ของญี่ปุ่นวางแผนเตรียมเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 100 แห่งในฮานอยและเมืองอื่นๆ ภายในปี 2025
แน่นอนว่าการทำตลาดไม่ใช่เรื่องง่ายและสิ่งที่ตามมาคาดว่าจะมีการแข่งขันด้าน
ราคากันอย่างรุนแรง ทำให้ Masan Group เดินหน้าขยายสาขาอย่างหนัก โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เปิดร้าน All in One แห่งแรกที่เรียกว่า Minimalls ภายใต้แบรนด์ Win ในเมืองฮานอย วางแผนเตรียมเปิดอีกประมาณ 100 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ต้องการความสะดวก โดย Win จะเข้ามาเสริมทัพธุรกิจค้าปลีกของบริษัท
แหล่งข่าวระบุว่า หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ 2,600 แห่งจาก Vingroup เข้ามาเสริมการเติบโตของธุรกิจ เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ทำให้ Masan กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 4 ของเวียดนาม ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในปี 2021 ในการประมูลเพื่อเพิ่มบริการทางการเงินในพอร์ตโฟลิโอ
ปัจจุบัน Masan มีธุรกิจร้านซูเปอร์มาร์เก็ต WinMart และร้านสะดวกซื้อ WinMart+ ประมาณ 3,500 สาขา โดยกลุ่มบริษัทมีแผนจะปิดร้านที่ทำรายได้น้อย และเดินหน้าขยายร้านใหม่ ตั้งเป้าให้มี 10,000 สาขาภายในปี 2025 ทั้งในรูปแบบการลงทุนเอง และรูปแบบแฟรนไชส์
Nguyen Dang Quang ประธานบริษัท Masan Group กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายร้านค้าปลีกของบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ภาพรวมของรายได้ลดลง 14% หรือประมาณ 2.35 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 32%
สำหรับในฮานอย มีซูเปอร์มาร์เก็ตคู่แข่งเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดให้บริการ แต่บริษัทมีความได้เปรียบในการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเครื่องปรุงรสผ่านร้านเครือข่ายอย่างครอบคลุม ซึ่งเชื่อว่าจะเอื้อต่อการแข่งขันได้ในอนาคต
พร้อมกันนี้ บริษัทยังหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ คือ แบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ทุ่มงบ 45 ล้านปอนด์ (54.6 ล้านดอลลาร์) เข้าไปถือหุ้น 15% ใน Nyobolt ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแบตเตอรี่ของอังกฤษ
ปัจจุบัน Masan ถือครองตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเวียดนามราวอันดับ 1 ตามรายงานของสมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลก ปัจจุบันคนเวียดนามบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่อันดับ 3 โดยมีปริมาณ 8.6 พันล้านครั้ง ขณะที่จีนและอินโดนีเซียครองอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
อีกทั้ง Masan ยังถือหุ้นในกลุ่มบริษัทผลิตน้ำปลา Nuoc Mam มากกว่า 50% และในปี 2014 กลุ่มบริษัทในเครือได้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจเบียร์ ทำให้สถานะของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นในฐานะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำในเวียดนาม
อ้างอิง: