วันนี้ (19 ธันวาคม) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีวานนี้ (18 ธันวาคม) เรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียงเนื่องจากคลื่นลมแรงขณะทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
แต่เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับและเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง
ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน
นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ โดยเรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น.
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน Straits Energy ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน Straits Energy และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล
ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเลจำนวน 8 แพ ทั้งนี้ เรือต่างๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรีจำนวน 47 นาย เรือลากจูงจำนวน 4 นาย เรือน้ำมันศรีไชยาจำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน Straits Energy จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมันศรีไชยา ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพลจำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิงสำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมันศรีไชยา จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลบางสะพานเพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป
นอกจากนี้เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจำนวน 75 นาย
ทั้งนี้ กองทัพเรือโดยกองเรือยุทธการได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย หมายเลขโทรศัพท์ 0 3818 2435 และ 08 4002 3554