Google ออกมายืนยันว่า ทางบริษัทจะไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์การเสิร์ชหา ‘เพลงชาติฮ่องกง’ ไปเป็นเพลงชาติจีน ตามคำร้องขอของรัฐบาลฮ่องกงที่มีขึ้นก่อนหน้านี้
ต้องเท้าความกลับไปก่อนว่า เดิมทีฮ่องกงไม่ได้มีเพลงชาติเป็นของตนเอง เนื่องจากจะใช้เพลงชาติร่วมกับจีน แต่เมื่อกระแสการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยปะทุขึ้น ก็ได้มีผู้ประท้วงรายหนึ่งแต่งเพลง Glory to Hong Kong ขึ้นมาเมื่อปี 2019 จนในที่สุดเพลงนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ผู้ประท้วง และถูกขนานนามว่านี่คือเพลงชาติใหม่ของฮ่องกง
ก่อนหน้านี้รัฐบาลฮ่องกงให้เรียกร้องให้ Google ยกเลิกการแสดงผลลัพธ์จากการเสิร์ชหาเพลง Glory to Hong Kong และขอให้ดันเพลงชาติจีนขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งท็อปเสิร์ชแทน โดย จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวว่า นี่เป็น ‘ประเด็นทางศีลธรรม’ ที่บริษัทเทคโนโลยีควรเร่งแก้ไข
โดยที่ผ่านมานั้นเคยมีการแข่งขันกีฬาที่เปิดเพลง Glory to Hong Kong ให้กับนักกีฬาฮ่องกงด้วยความเข้าใจผิดอยู่หลายครั้ง เช่น การแข่งขันรักบี้ในเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยสมาพันธ์รักบี้เอเชียระบุว่า ทีมงานดาวน์โหลดเพลงมาผิด เพราะเสิร์ชคำว่า ‘เพลงชาติฮ่องกง’ ในอินเทอร์เน็ต แล้วเพลง Glory to Hong Kong ปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ธันวาคม) คริส ถัง (Chris Tang) หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกง กล่าวว่า Google ได้ปฏิเสธคำขอของฮ่องกง ซึ่งเขามองว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง อีกทั้งยังโจมตีด้วยว่า Google เลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน เพราะเมื่อครั้งที่ศาลสูงสุดของสหภาพยุโรปตัดสินว่าบริษัทจะต้องลบผลลัพธ์การค้นหาของผู้คน หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นไม่เป็นความจริง Google ก็ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี
ขณะเมื่อวันพุธ (14 ธันวาคม) หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลฮ่องกงในการ ‘รักษาเกียรติยศของเพลงชาติ’ และยืนยันว่า Google มีหน้าที่ที่จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ใช้งาน
ด้าน Google ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า “Google ต้องจัดการกับข้อความที่ผู้คนเสิร์ชค้นหาหลายพันล้านรายการทุกๆ วัน ฉะนั้น เราจึงสร้างระบบการจัดอันดับการแสดงผลลัพธ์ เพื่อแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มีคุณภาพสูง และเป็นประโยชน์โดยอัตโนมัติ” พร้อมย้ำว่าบริษัทจะไม่ปรับแต่งผลลัพธ์การเสิร์ชด้วยตนเอง เพื่อกำหนดอันดับของผลลัพธ์ที่แสดงบนหน้าเพจ
แฟ้มภาพ: BongkarnGraphic Via Shutterstock
อ้างอิง:
