วันนี้ (15 ธันวาคม) เวลา 17.30 น. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบต้นคริสต์มาส (ต้นสนสด) จากกลุ่มเซ็นทรัล โดยบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด นำโดย สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มเซ็นทรัล ที่มอบให้กรุงเทพมหานครพร้อมเปิดไฟประดับต้นคริสต์มาส โดยมี กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, เอริก จอห์น กอร์ดอน รักษาการแทนเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน ณ บริเวณโถง ชั้น 5 อาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน
งานดังกล่าวเปิดให้ประชาชนได้สัมผัสความสุขต้อนรับเทศกาลอันแสนอบอุ่นจากต้นคริสต์มาส (ต้นสนสด) สายพันธุ์ Balsam Fir ที่เป็นสายพันธุ์ที่หอมที่สุดในโลกจากเมืองลูเนนเบิร์กเคาน์ตี รัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา ที่คัดสรรรูปทรงลำต้นสวยงามทุกมุมมอง ความสูง 3 เมตร ขับกล่อมด้วยวงดนตรีบรรเลงเพลงบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง โดยกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้โครงการ ‘เซ็นทรัลทำ’ ร่วมกับไทวัสดุ มอบต้นคริสต์มาสให้แก่กรุงเทพมหานคร ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของกระต่ายน้อยสวมชุดผ้าทอพื้นบ้าน โลดแล่นบนต้นสน พร้อมตกแต่งและประดับด้วยลูกบอลที่ทำจากผ้าทอมือและผ้าขาวม้า สื่อให้เห็นถึงแนวคิดงานศิลปะแบบร่วมสมัย ยกระดับการออกแบบให้ดูโมเดิร์นผสมผสานวัฒนธรรมไทยและเทศกาลเฉลิมฉลองนานาชาติผนวกเข้าด้วยกัน ในช่วงเทศกาลในเดือนธันวาคมนี้ และถือเป็นโอกาสที่ดีช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่จะมอบต้นสนสดให้ทุกคนได้สัมผัสต้นจริง พร้อมสัมผัสกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยได้จัดตั้งแสดงไว้ที่ชั้น 5 อาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2565
ไฮไลต์สำคัญในการส่งมอบครั้งนี้ ได้เชิญชวนให้คนพิการทางสายตาจากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ มาร่วมประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยตกแต่งในรูปแบบกระต่ายน้อยเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ (ปีกระต่าย) สวมด้วยชุดผ้าทอนาหมื่นศรี ผ้าทอมือโบราณสีและลายพิเศษ อัตลักษณ์จากชาวชุมชนนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมสนับสนุนจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่ออนุรักษ์การทอผ้าโบราณไว้ให้คงอยู่ตลอดไป พร้อมลูกบอลตกแต่ง (Ornaments) ตัดเย็บทำมือจากชาวบ้านชุมชนใกล้เคียง ตลาดจริงใจ Farmers Market จังหวัดเชียงใหม่ วัสดุผ้าขาวม้า ผ้าทอมือ และเชือกป่าน ตกแต่งไปพร้อมกับลูกสน วัสดุจากธรรมชาติ นอกจากนี้ผู้ร่วมงานสามารถร่วมบริจาคเงินขั้นต่ำ 50 บาท เพื่อรับโปสการ์ด 1 ชุด (2 ใบ 2 ขนาด) และสามารถนําการ์ดขนาดเล็กไปแขวนประดับที่ต้นคริสต์มาสได้ โดยรายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลก โดยขับเคลื่อนเมืองผ่านศิลปะ แสง สี และดนตรี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลแห่งความสุขช่วงปีใหม่ กับงาน ‘Colorful Bangkok 2022’ หรือ ‘ฤดูกาลศิลปะกรุงเทพ’ ตามนโยบาย 12 เทศกาลตลอดปี ครอบคลุมตลอด 3 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566 โดยมีจุดมุ่งหมายในการเปิดพื้นที่สาธารณะให้คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมให้เข้าร่วมได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นการช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนธุรกิจโดยรอบ กระตุ้นยอดขายจากการจัดงานเทศกาล และเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยได้รวบรวมกิจกรรมของเทศกาล Colorful Bangkok 2022 ที่เว็บไซต์ http://www.bangkokartcity.org และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/bangkokartcity เพื่อเป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมที่จัดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ