การสำรวจภายในของพนักงานในบริษัทยานยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อย่าง Tesla ในปี 2018 ที่ทำขึ้นในช่วงทดลองของบริษัทเผยให้เห็นความกังวลของพนักงานหลายคนเกี่ยวกับภาวะความเป็นผู้นำของ อีลอน มัสก์
แบบสำรวจดังกล่าวถูกเผยแพร่ฉบับเต็มเป็นครั้งแรกในคดีความของมัสก์กับค่าสินไหมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ของเขา โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคมของปี 2018 Gabrielle Toledano อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Tesla ได้ส่งแบบสำรวจไปให้ Ira Ehrenpreis สมาชิกคณะกรรมการของ Tesla ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนของบริษัทในตอนนี้ ในอีเมลได้ระบุประเด็นปัญหาสำคัญ 2 เรื่องที่พนักงานกำลังเผชิญอยู่ เรื่องแรกคือความกังวลเรื่องค่าตอบแทน และเรื่องที่ 2 คือความกังวลเกี่ยวกับความเป็นผู้นำของมัสก์ที่ Tesla
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไม่ลงรอย? พนักงาน Twitter ออกมาโต้ตอบเจ้าของคนใหม่อย่าง ‘อีลอน มัสก์’ ที่บอกว่า แอป ‘ทำงานช้าในหลายๆ ประเทศ’
- Twitter 2.0 การทำงานที่ ‘ฮาร์ดคอร์อย่างมาก’ ซึ่ง อีลอน มัสก์ อยากเห็น และคนที่ได้รับการประเมินว่า ‘เจ๋ง’ เท่านั้นที่จะได้ทำงานจากที่บ้านต่อ
- อดีตพนักงานเชื่อ อีลอน มัสก์ เป็นส่วนผสมของ Einstein, Tesla และ Rockefeller ถึงอย่างนั้นแม้แต่แม่ของเขาก็ยังยอมรับว่าไม่มีใครอยากเป็นเขา
“รีวิวแบบสำรวจพนักงาน” เธอเขียนในอีเมล “ค่าตอบแทนไม่ดี ส่วนใหญ่มาจากรองประธาน และไม่เก่งด้านการเป็นผู้นำ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับมัสก์”
ในการสำรวจพนักงานระดับมืออาชีพ ผู้จัดการ ผู้บริหารและกรรมการ กว่า 65% บอกว่าเชื่อมั่นว่ามัสก์และทีมผู้บริหารจะ ‘สามารถรักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของพนักงานกับผลประโยชน์ของบริษัทได้’ และ 67% เชื่อว่ามัสก์และผู้บริหารนั้น ‘ห่วงใยพนักงานในบริษัท’
58% ของพนักงานระดับมืออาชีพหรือสูงกว่านั้นบอกว่าได้รับ ‘ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม’ สำหรับงานของพวกเขา ในส่วนของคำถามเกี่ยวกับมัสก์และทีมบริหาร พนักงานหลายคนบ่นเรื่องวัฒนธรรมองค์กร ความเป็นผู้นำ ความสามารถในการเข้าหาและการสื่อสาร ลำดับเวลาการทำงาน และการเลิกจ้าง
“Tesla กำลังสูบเลือดสูบเนื้อพนักงานที่มีความสามารถและความเชื่อมั่นระดับสูงต่อวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างสุดใจและหวังจะประสบความสำเร็จ” พนักงานคนหนึ่งเขียนในแบบสำรวจ “อีลอนเป็นผู้นำด้านเทคนิคลำดับสูงสุด ทั้งยังถูกมองว่าเป็นทรราชที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ ซึ่งมันลดคุณค่าการมีส่วนร่วมของพนักงาน อีกทั้งยังไล่ใครก็ได้ออกตามอำเภอใจ เขาปฏิบัติต่อผู้คนที่เป็นพื้นฐานของบริษัทราวกับว่าพวกเขาเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วทิ้ง”
และกล่าวเสริมว่า Tesla ‘ไม่สามารถแยกระหว่างความเป็นผู้นำทางเทคนิคและความเป็นผู้นำของคนได้’ และเรียกสิ่งนี้ว่า ‘ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอันน่าเกลียดของ Tesla’
พนักงานอีกคนรู้สึกว่า ‘ณ จุดหนึ่ง ฉันหรือคนรอบตัวจะถูกไล่ออก’ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ได้วางแผนจะอยู่ใน ‘สภาพแวดล้อมอันย่ำแย่นี้อีกต่อไป’ พนักงานอีกคนบอกว่า ‘อีโก้’ ของมัสก์จำเป็นต้องถูกเปลี่ยน
แม้จะมีความคิดเห็นเชิงลบมากมายเกี่ยวกับมัสก์ แต่ 98% ของพนักงานที่ทำแบบสำรวจระบุว่าพวกเขา ‘ภูมิใจในสิ่งที่ Tesla กำลังทำต่อโลก’
แบบสำรวจถูกอ้างถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวันแรกของการให้ปากคำคดีที่ผู้ถือหุ้นฟ้องร้องมัสก์เกี่ยวกับค่าตอบแทนของเขา โดยกล่าวหาว่ามัสก์และบริษัทละเมิดหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจด้วยการให้ค่าตอบแทนที่ ‘เกินขอบเขตที่สมเหตุสมผล’
อีเมลดังกล่าวถูกใช้เป็นหลักฐานว่าซีอีโอของบริษัทนั้นเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อพนักงานและผู้บริหารใน Tesla ที่รับผิดชอบการอนุมัติการจ่ายเงินค่าตอบแทนของเขา
อ้างอิง: