วันนี้ (11 พฤศจิกายน) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรของการประชุม APEC 2022 กับทุกหน่วยปฏิบัติ พร้อมรับชมการสาธิตฝึกทดสอบระบบบัญชาการตามแผนเผชิญเหตุ
ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร มี พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าศูนย์กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรของการประชุม APEC 2022
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุฯ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของการทดสอบระบบบัญชาการในการรักษาความปลอดภัยและการต่อต้านการก่อการร้าย เพื่อให้กำลังพลทั้งกองอำนวยการตอบโต้สถานการณ์ หน่วยตอบโต้สถานการณ์ และผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ได้ทบทวนกลไก กระบวนการ และขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย และทดสอบระบบควบคุมบังคับบัญชาสั่งการ รวมถึงระบบการติดต่อสื่อสารให้มีความพร้อมรองรับการจัดการประชุมฯ
ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรักษา ความปลอดภัย จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพขีดความสามารถของประเทศไทยและการยอมรับต่อผู้นำ รวมทั้งผู้แทนนานาประเทศและองค์กรต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมฯ
พล.อ. ประวิตรกล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญที่ต้องการให้ตระหนักอยู่ตลอดเวลา คือการป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการประชุมฯ ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วง
ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ พล.อ. ประวิตรพอใจกับการซักซ้อม โดยกำชับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนขอให้ทำให้เต็มที่ เพราะถือว่าเป็นการทำเพื่อประเทศ ฉะนั้นต้องให้เกิดความเรียบร้อย เข้มแข็ง ทั้งนี้ยังไม่มีการสั่งว่าให้ปรับส่วนไหนเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม จากที่มีรายงานว่าจะมีการรวมกลุ่มชุมนุมกันของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ขอให้ดำเนินตามกรอบของกฎหมาย แม้ยึดหลักการกระทำตามสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ทั้งนี้การประชุมที่จะเกิดขึ้นเป็นการประชุมระหว่างประเทศ หากเกิดเหตุความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีกลุ่มกรีนพีซ ประเทศไทย เข้ามาแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์บริเวณใกล้กับศูนย์การประชุมฯ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวว่า วันนี้พื้นที่ดังกล่าวยังไม่ได้วางมาตรการเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 14 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และจะเริ่มปิดถนนในวันที่ 16 พฤศจิกายน การที่มีกลุ่มเข้ามาแสดงเชิงสัญลักษณ์ไม่ถือว่าการให้ข่าวของตำรวจคลาดเคลื่อน
ส่วนหลังจากนี้ หากมีกลุ่มใดต้องการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หรือรวมกลุ่มชุมนุม ก็จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ต้องแจ้งให้ตำรวจรับทราบก่อน 24 ชั่วโมง หรือหากเป็นในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทางกรุงเทพมหานครก็จะต้องกำกับดูแล
แต่ขอย้ำว่าพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และโดยรอบถือว่าเป็นพื้นที่ปิด จะไม่มีการอนุญาตให้ทำกิจกรรมใด