วานนี้ (9 พฤศจิกายน) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวถึงผลนับคะแนนการเลือกตั้งกลางเทอมที่ยังไม่เสร็จสิ้น โดยประกาศว่าเป็น ‘วันที่ดีสำหรับระบอบประชาธิปไตย’ หลังพรรคเดโมแครตสามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่คาด แม้ว่าคะแนนจะยังคงตามหลังพรรครีพับลิกันทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร พร้อมชี้ว่า ‘คลื่นยักษ์สีแดง’ ซึ่งหมายถึงสีสัญลักษณ์ของรีพับลิกัน ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
ผลการนับคะแนนจนถึงตอนนี้ (09.45 น. ตามเวลาในไทย) ปรากฏว่าพรรคเดโมแครตสามารถครองที่นั่งในวุฒิสภา รวมแล้วได้ 48 ที่นั่ง ตามหลังรีพับลิกันที่ได้ 49 ที่นั่ง และยังเหลืออีก 3 รัฐ สำคัญ คือแอริโซนา จอร์เจีย และเนวาดา ที่สามารถชี้ขาดว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมาก โดยรัฐจอร์เจียนั้นอาจต้องมีการลงคะแนนเสียงรอบสองเพื่อชี้ขาดในวันที่ 6 ธันวาคม เนื่องจากยังไม่มีผู้สมัครรายใดได้คะแนนเกินเกณฑ์ที่กำหนด คือกึ่งหนึ่งหรือ 50%
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรนั้น รีพับลิกันขยับเข้าใกล้การครองอำนาจเสียงข้างมาก โดยครองเก้าอี้ ส.ส. มากกว่าเดโมแครตอยู่ 208 ต่อ 188 ที่นั่ง จากทั้งหมด 435 ที่นั่ง
ทั้งนี้ แม้คะแนนของเดโมแครตในสองสภาจะยังตามหลัง แต่ไบเดนเผยว่าผลเลือกตั้งล่าสุดที่ออกมา ทำให้เขาสามารถ ‘ถอนหายใจอย่างโล่งอก’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าผู้สมัครบางคนของรีพับลิกันที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ผู้ปฏิเสธการเลือกตั้ง’ จากการไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ไม่ได้รับเลือกเข้าสู่สภา
ขณะเดียวกัน ไบเดนประกาศคำมั่นว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรีพับลิกัน และจะเชิญผู้นำคองเกรสจากทั้งสองพรรคมายังทำเนียบขาว หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนตะวันออกกลางและเอเชียในช่วงสัปดาห์นี้
“ผมพร้อมที่จะทำงานกับเพื่อนร่วมงานรีพับลิกันของผม ประชาชนอเมริกันแสดงออกชัดเจนว่าพวกเขาคาดหวังให้รีพับลิกันพร้อมที่จะทำงานกับผมเช่นกัน” ไบเดนกล่าว
ขณะที่เขายังย้ำถึงความตั้งใจในการลงสมัครชิงประธานาธิบอีกสมัยในการเลือกตั้งปี 2024 โดยกล่าวว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายน่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
“ความตั้งใจของเราคือลงสนามอีกครั้ง ไม่ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร”
#เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ2022
ภาพ: MANDEL NGAN / AFP
อ้างอิง: