บล.กรุงศรี ปักธงใน UAE ขึ้นแท่นบริษัทหลักทรัพย์รายแรกที่พานักลงทุนไทยเทรดหุ้นตะวันออกกลาง หลังเปิดแอปพลิเคชัน KSS iGlobal ให้ลูกค้าเทรดหุ้นนอกได้รวมกว่า 28 ประเทศทั่วโลก
ธนัท วงษ์ชูแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.กรุงศรี กล่าวว่า บล.กรุงศรี จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกของไทยที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์กับนักลงทุนไทยในประเทศแถบตะวันออกกลาง ผ่านแอป KSS iGlobal ของบริษัท โดยจะเริ่มให้บริการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เป็นประเทศแรก ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ประเมินว่าตลาดหลักทรัพย์ดูไบเป็นตลาดหุ้นที่มีความน่าสนใจ เพราะมีบริษัทด้านพลังงานขนาดใหญ่หลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจนี้กำลังได้อานิสงส์จากราคาพลังงานของโลกที่กำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตค่อนข้างดี ทำให้นักลงทุนมีความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดหุ้นในตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเปิดบริการซื้อขายหุ้นเพิ่มอีก 23 ประเทศชั้นนำผ่านแอป KSS iGlobal ให้ลูกค้าเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้รวมกว่า 28 ประเทศด้วย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการกับนักลงทุนไทยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไปด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
นอกจากนี้ บล.กรุงศรี ยังมีแผนที่จะเปิดให้บริการ Fractional Share เพิ่มในตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงไตรมาส 1/23 เพื่อช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงหุ้นระดับโลกอย่าง Tencent, AIA, Haidilao หรือ Xiaomi ได้ง่ายขึ้น รวมถึงขยายจำนวนตลาดหุ้นต่างประเทศให้เป็นทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายขึ้น ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย จีน อังกฤษ เยอรมนี ทั้งในยุโรปและเอเชีย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวแอป KSS iGlobal แพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ด้วยตนเองในแอปเดียว และยังเป็นแอปที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นทั้งแบบ Fractional Share และ Normal Share
“บล.กรุงศรี เตรียมออกผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้าที่ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุน รวมถึงการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Potential Yield Enhancement) เช่น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงสินทรัพย์การเงินต่างประเทศ (Global Structured Products), Fixed Coupon Note (FCN), Principal Protected Note (PPN) และ Bonus Enhanced Note (BEN) และยังออกผลิตภัณฑ์กองทุนรวมต่างประเทศ (Global Mutual Fund) และตราสารหนี้ต่างประเทศ (Global Fixed Income) ซึ่งทั้งหมดจะสามารถให้บริการนักลงทุนภายในปลายปีนี้”
ธนัทกล่าวเพิ่มว่า บล.กรุงศรี ยังได้เสริมทัพผู้บริหารด้วยการดึง เผดิมภพ สงเคราะห์ เข้าร่วมทีมบริหาร โดยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2022