เจฟฟ์ เบโซส์ อดีตซีอีโอของ Amazon กล่าวว่า การลงทุนในอวกาศจะเป็นประโยชน์ต่อโลกและช่วยรักษาโลกไว้ ตลอดจนความท้าทายที่โลกต้องเจอ และแนวคิดของเขาเกี่ยวกับงานระยะสั้นและระยะยาวที่จำเป็น
“บางคนถามผมว่าทำไมต้องลงทุนอย่างมากในอุตสาหกรรมอวกาศทั้งทีมีปัญหามากมายบนโลกที่ต้องแก้ไข” เบโซส์กล่าว และคำตอบของเขาคือการลงทุนกับอวกาศจะนำไปสู่การรักษาโลกไว้ เนื่องจาก “เราไปอวกาศไม่ใช่เพราะต้องการทิ้งบ้านของเรา แต่เพื่อปกป้องมันไว้”
เบโซส์กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์สามารถเก็บได้แทบไม่จำกัด และสามารถนำไปใช้กับทรัพยากรอื่นๆ ในอวกาศได้โดยไม่ทำอันตรายต่อโลก และ “โลกเป็นส่วนที่ควรได้รับการดูแล” เขากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจฟฟ์ เบโซส์ ออกโรงเตือนภาวะถดถอยสหรัฐฯ พร้อมแนะให้เตรียมตัวตั้งรับความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น
- เจฟฟ์ เบโซส์ บอกว่า ไบเดน กำลัง ‘ชี้ทางผิด’ หลังมองเงินเฟ้อสามารถบรรเทาได้ด้วยการให้บริษัทที่ร่ำรวยจ่าย ‘ภาษี’ อย่างยุติธรรม
- ‘เจฟฟ์ เบโซส์’ ขายหุ้น Amazon มูลค่า 6.6 หมื่นล้านบาท นำเงินไปช่วยฟื้นฟูธรรมชาติและเปลี่ยนแปลงระบบอาหารอย่างการเกษตร
ทั้งนี้ เบโซส์ก่อตั้ง Blue Origin เมื่อปี 2000 ซึ่งเป็นบริษัทด้านการบินและอวกาศ เขากล่าวในสุนทรพจน์ว่า เขามี “ความมุ่งมั่นตั้งแต่แรกในการสร้างเส้นทางสู่อวกาศ”
เขากล่าวว่าเป้าหมายของ Blue Origin คือการทำให้การเดินทางไปอวกาศถูกลง บ่อยขึ้น และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดย Blue Origin นั้นสร้าง ทดลอง และปล่อยจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
“เป้าหมายระยะยาวของ Blue Origin คือการเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทั้งหมดออกจากโลก” เบโซส์กล่าว “เส้นทางนั้นยังอีกยาวไกล และเราจะไม่เห็นบทสรุปในชีวิตนี้ของผม”
เบโซส์ยังกล่าวถึงการลงทุนของเขาในโลก โดยชี้ไปที่ภัยคุกคามจากภาวะโลกร้อน ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และพายุที่รุนแรงขึ้น โดย “ในเกือบทุกสถานการณ์ กลุ่มคนยากจนและกลุ่มเปราะบางเป็นคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากภัยพิบัติเหล่านี้มากที่สุด ขณะที่พวกเขาแทบไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ก่อเกิดภัยพิบัติพวกนั้น”
ทั้งนี้ เบโซส์ก่อตั้ง Bezos Earth Fund ในปี 2020 และจัดสรรเงินจำนวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับกองทุน เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปกป้องธรรมชาติ ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นประธานบริหารกองทุน
อ้างอิง: