×

เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ 2022: เจาะ 9 มลรัฐชี้ชะตาสภาสูง (2)

17.10.2022
  • LOADING...
เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ 2022

หลังจากบทความที่แล้ว THE STANDARD พาผู้อ่านไปสำรวจ 4 มลรัฐที่รีพับลิกันมีโอกาสจะแย่งที่นั่งมาจากเดโมแครต มาในบทความนี้ เราจะพาผู้อ่านไปสำรวจ 5 มลรัฐที่เดโมแครตมีโอกาสจะแย่งที่นั่งมาจากรีพับลิกันบ้าง

 

เพนซิลเวเนีย: ออซ vs. เฟทเทอร์แมน

เพนซิลเวเนียเป็นมลรัฐที่พรรคเดโมแครตมีโอกาสพลิกมาแย่งที่นั่ง ส.ว. จากรีพับลิกันได้มากที่สุด เพราะ ส.ว. เจ้าของที่นั่งเดิมอย่าง แพท ทูมมีย์ ตัดสินใจไม่ลงรับเลือกตั้งอีกสมัย ซึ่งก็ทำให้คนในพรรครีพับลิกันเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะทูมมีย์เป็นนักการเมืองสายกลางที่มีคะแนนนิยมในตัวค่อนข้างสูง ที่น่าจะทำให้เขาชนะเลือกตั้งอีกสมัยได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

 

ภายหลังจากที่ทูมมีย์ถอนตัว พรรครีพับลิกันก็ได้ตัดสินใจส่งเซเลบริตี้อย่างนายแพทย์เมห์เม็ต ออซ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ดร.ออซ ตามรายการวาไรตี้โชว์ที่โด่งดังของเขาลงเลือกตั้ง ซึ่งว่ากันตามหน้ากระดาษแล้ว ดร.ออซน่าจะเป็นผู้สมัครที่แข็งแกร่งด้วยความที่เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่เป็นนายแพทย์ที่ชาวอเมริกันให้ความเชื่อถือ

 

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงฤดูหาเสียงจริงๆ เรื่องราวฉาวโฉ่ของ ดร.ออซ ก็ถูกขุดคุ้ยออกมาหลายต่อหลายเรื่องจนทำให้ความนิยมของเขาตกต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่เขาเอาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ไม่มีประสิทธิภาพจริงไปโปรโมตในรายการ เรื่องราวการทำวิจัยในสุนัขที่ผิดจริยธรรมในสมัยที่เขาทำวิจัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รวมถึงการถูกโจมตีมาตลอดว่าเขาอาศัยอยู่ในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์มาทั้งชีวิตแต่เพิ่งย้ายมาอยู่ในมลรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาเพื่อฉวยโอกาสทางการเมือง

 

ในทางตรงข้าม เดโมแครตส่งรองผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันอย่าง จอห์น เฟทเทอร์แมน ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเฟทเทอร์แมนนั้นเป็นนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์ของการเป็นคน ‘ลูกทุ่ง’ ด้วยการที่เขาไม่ชอบใส่สูทผูกไท และมีรอยสักตามตัว ซึ่งพรรคเดโมแครตเชื่อว่าภาพลักษณ์แบบนี้ของเฟทเทอร์แมนจะสามารถดึงดูดคะแนนเสียงจากชนชั้นแรงงานผิวขาวในรัฐที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรค แต่ปันใจไปเลือกรีพับลิกันในยุคของทรัมป์

 

โพลในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าแผนการของเดโมแครตน่าจะได้ผล เพราะคะแนนนิยมของเฟทเทอร์แมนนำ ดร.ออซ มาโดยตลอด โดยในบางช่วงคะแนนของเฟทเทอร์แมนขึ้นนำถึงกว่า 10% แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคะแนนนิยมของ ดร.ออซ นั้นก็ได้ตีตื้นมาพอสมควร หลังจากที่เขาเลือกที่จะโจมตีเฟทเทอร์แมนว่าเป็นพวกซ้ายจัด ที่สนับสนุนนโยบายอย่าง Green New Deal และการลดงบประมาณของตำรวจ (Defund the Police) ไม่ต่างอะไรไปจากนักการเมืองซ้ายจัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง เบอร์นี แซนเดอร์ส และ อเล็กซานเดรีย โอกาซิโอ-กอร์เตส ซึ่งการโจมตีของ ดร.ออซดูเหมือนจะได้ผลดีพอสมควร เพราะคะแนนนำของเฟทเทอร์แมนลดลงมาเหลือแค่ประมาณ 5% ในการสำรวจหนึ่งเดือนหลังสุด ซึ่งสถานการณ์ ณ ตอนนี้คงต้องบอกว่าเฟทเทอร์แมนยังได้เปรียบอยู่สักหนึ่งก้าว แต่ ดร.ออซก็ยังมีโอกาสพลิกกลับมาชนะถ้าการโจมตีของเขาได้ผลดีต่อไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่เหลืออีกหนึ่งเดือนก่อนการลงคะแนน (lean Democrats)

 

วิสคอนซิน: จอห์นสัน vs. บาร์นส์

วิสคอนซินเป็นอีกหนึ่งมลรัฐที่พรรคเดโมแครตมีโอกาสพลิกมาเอาชนะ ส.ว. เจ้าของที่นั่งเดิมจากรีพับลิกันอย่าง รอน จอห์นสัน เพราะวิสคอนซินเป็นหนึ่งในมลรัฐที่ไบเดนชนะเลือกตั้งในปี 2020 และผู้สมัครประธานาธิบดีของเดโมแครตก็ผูกปีชนะที่มลรัฐมาเกือบตลอดในช่วง 30 ปีหลัง (ยกเว้นแต่ ฮิลลารี คลินตัน ที่แพ้ทรัมป์ไปอย่างฉิวเฉียดในปี 2016)

 

ที่สำคัญจอห์นสันนั้นเป็นสายอนุรักษนิยมขวาจัดที่ต่อต้านการทำแท้งเสรี และเคยต่อต้านกฎหมายสมรสเท่าเทียม นอกจากนั้นเขายังถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในขบวนการที่พยายามจะล้มล้างผลการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ด้วยการที่เขาจะส่งคณะผู้แทนเลือกตั้ง (Electors) ที่เลือกโดยเขาเองเข้าไปโหวตให้ทรัมป์ (โดยผ่านการรับรองจากรองประธานาธิบดีอย่าง ไมค์ เพนซ์) แทนที่คณะผู้แทนเลือกตั้งที่ชนะการเลือกตั้งมาจริงๆ (แต่สุดท้ายแล้ว แผนนี้ล้มเหลวเพราะเพนซ์ไม่เล่นด้วย)

 

เดโมแครตหวังว่าสองประเด็นนี้จะช่วยให้พวกเขาพลิกกลับมาชนะจอห์นสันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่อย่างไรก็ดีหนทางของพวกเขากลับยากลำบากกว่าที่คิด เพราะเดโมแครตเองก็ส่งนักการเมืองซ้ายจัดอย่าง แมนเดลา บาร์นส์ (ซึ่งเป็นรองผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบัน) ลงสมัคร 

 

บาร์นส์ถูกจอห์นสันโจมตีว่าเป็นพวกสังคมนิยมที่สนับสนุนการขึ้นภาษี, Green New Deal และการลดงบประมาณของตำรวจ (คล้ายกับกรณีของเฟทเทอร์แมน) ซึ่งการโจมตีของจอห์นสันก็ดูจะได้ผลดีเป็นอย่างมาก เพราะจากเดิมที่บาร์นส์เคยมีคะแนนนิยมนำอยู่ประมาณ 2-3% แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าจอห์นสันมีคะแนนนำ 2-3% แทน

 

ทางฝั่งของบาร์นส์ก็พยายามแก้เกมด้วยการออกโฆษณาทางโทรทัศน์โจมตีความอนุรักษนิยมสุดขอบของจอห์นสัน ซึ่งเราก็คงต้องดูต่อไปว่าในอีกหนึ่งเดือนที่เหลือการโจมตีของบาร์นส์จะได้ผลขนาดนี้ แต่ในตอนนี้คงต้องบอกว่าจอห์นสันได้เปรียบอยู่หนึ่งช่วงตัว (lean Republican)

 

นอร์ทแคโรไลนา: บัดด์ vs. บีสลีย์

นอร์ทแคโรไลนาเป็นมลรัฐทางภาคใต้ที่มีความเป็นอนุรักษนิยมสูง แต่ในช่วงหลังความเป็นอนุรักษนิยมของมลรัฐก็ลดลงเรื่อยๆ เพราะการเติบโตของเมืองแห่งการศึกษาและการแพทย์อย่าง ราลี เดอแรม และแชเปิลฮิลล์ ที่ดึงดูดคนผิวขาวที่มีการศึกษา และมีแนวคิดแบบเสรีนิยมเข้าไปทำงาน จนทำให้อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัก โอบามา เคยเอาชนะคู่แข่งได้ที่มลรัฐนี้ในปี 2008 และผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันก็เป็นคนของพรรคเดโมแครต

 

พรรครีพับลิกันเป็นเจ้าของเก้าอี้ แต่ว่า ส.ว. เจ้าของเก้าอี้คนปัจจุบันอย่าง ริชาร์ด เบอร์ ตัดสินใจที่จะเกษียณตัวเอง ทางพรรคก็เลยได้เลือกให้ ส.ส. จากเขต 13 ของมลรัฐอย่าง เท็ด บัดด์ ลงชิงตำแหน่งแทน ในขณะที่พรรคเดโมแครตก็ได้ส่งอดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งมลรัฐนอร์ทแคโรไลนาอย่าง เชอร์รี บีสลีย์ ลงชิงชัย โดยที่บีสลีย์นั้นเป็นหญิงผิวดำ และพรรคเดโมแครตก็คาดหวังว่าตัวเธอนั้นจะสร้างความตื่นเต้นให้กับฐานเสียงชาวแอฟริกันอเมริกันของพรรคในเมืองเอกอย่างชาร์ลอต และทำให้ฐานเสียงของพรรคพร้อมใจกันออกมาเทคะแนนให้เธอสร้างประวัติศาสตร์ได้เป็น ส.ว. สตรีผิวดำคนแรกจากภาคใต้

 

อย่างไรก็ตามด้วยความที่นอร์ทแคโรไลนายังเป็นมลรัฐที่เอียงไปทางขวา และคะแนนนิยมของประธานาธิบดีของเดโมแครตอย่างไบเดนที่ตกต่ำก็ทำให้การที่บีสลีย์จะดึงคนที่อยู่กลางๆ มาลงคะแนนให้เธอยังทำได้ลำบาก ผลการสำรวจในช่วงประมาณหนึ่งถึงสองเดือนหลังก็พบว่าบัดด์มีคะแนนนำเกือบทุกโพล ถึงแม้จะแค่ประมาณ 1-2% ซึ่งก็แปลได้ว่าบัดด์ยังมีความได้เปรียบอยู่สักหนึ่งก้าว (lean Republican)

 

โอไฮโอ: แวนซ์ vs. ไรอัน

แต่แรกเลยนั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าเดโมแครตจะมีโอกาสพลิกกลับมาชนะที่โอไฮโอ เพราะโอไฮโอเป็นมลรัฐที่เต็มไปด้วยชนชั้นแรงงานผิวขาวที่มีความจงรักภักดีกับพรรครีพับลิกันในยุคสมัยของทรัมป์อย่างยิ่งยวด

 

แต่อย่างไรก็ดี ส.ว. เจ้าของเก้าอี้เดิมอย่าง ร็อบ พอร์ตแมน ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดค่อนมาทางกลางๆ ตัดสินใจที่จะเกษียณตัวเอง และปฏิเสธที่จะลงรับเลือกตั้งต่อ (สาเหตุหนึ่งที่เขาตัดสินใจเกษียณทั้งที่อายุยังไม่มากก็เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับทิศทางแบบขวาจัดของพรรคที่นำโดยทรัมป์) และพรรคก็เลือกผู้สมัครที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนอย่าง เจ.ดี. แวนซ์ มาเป็นตัวแทนของพรรค

 

ในทางตรงข้าม พรรคเดโมแครตได้เลือก ส.ส. หลายสมัยอย่าง ทิม ไรอัน มาเป็นผู้แทนพรรค โดยที่ไรอันนั้นมีภาพลักษณ์ของการเป็นนักสู้เพื่อชนชั้นแรงงาน ด้วยเหตุที่เขาเป็น ส.ส. จากเมืองอุตสาหกรรมอย่างยังส์ทาวน์ ทำให้เขามีประวัติการต่อสู้ในสภาเพื่อผ่านกฎหมายที่เอื้อประโยชน์กับชนชั้นแรงงานผิวขาวมาอย่างยาวนาน ในขณะที่แวนซ์นั้นมีภาพลักษณ์ของการเป็นชนชั้นสูง เพราะเขาเคยมีอาชีพเป็นนักลงทุน (Venture Capitalist) ในซิลิคอนแวลลีย์ที่เคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับมหาเศรษฐีอย่าง ปีเตอร์ ธีล

 

ไรอันพยายามใช้ภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันของเขากับแวนซ์มาเป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียง และไรอันยังได้พยายามขุดคุ้ยถึงความไม่ชอบมาพากลในองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ติดสารเสพติดในมลรัฐโอไฮโอที่แวนซ์เคยบริหาร ว่าเงินบริจาคไม่เคยตกลงมาถึงผู้ป่วยจริงๆ

 

การหาเสียงของไรอันดูเหมือนว่าจะได้ผล เพราะผลการสำรวจคะแนนความนิยมพบว่าคะแนนของทั้งสองคนสูสีมาก ผลัดกันตามผลัดกันนำ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาว่าโอไฮโอเป็นมลรัฐที่เคยเทคะแนนให้ทรัมป์อย่างถล่มทลายถึงสองสมัยติดต่อกัน ก็คงต้องระบุว่าแวนซ์น่าจะยังได้เปรียบอยู่สักหนึ่งก้าว (lean Republican)

 

ฟลอริดา: รูบิโอ vs. เดมมิงส์

ฟลอริดาเป็นอีกหนึ่งมลรัฐที่ไม่มีใครคิดว่าเดโมแครตจะพลิกมาชนะได้ เพราะ ส.ว. เจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง มาร์โก รูบิโอนั้น เป็นนักการเมืองที่มีคะแนนนิยมในระดับที่ดีพอสมควร และความที่เขามีเชื้อสายฮิสแปนิก ก็ทำให้เขาดึงดูดคะแนนจากชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกที่มีอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในทางตอนใต้ของมลรัฐ

 

แต่อย่างไรก็ดี เดโมแครตได้เลือกให้ ส.ส. หญิงผิวดำอย่าง แวล เดมมิงส์ มาเป็นผู้แทนพรรค ซึ่งเดมมิงส์นั้นถือเป็นนักการเมืองระดับซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของพรรค เพราะเธอเคยถูกพิจารณาเป็นหนึ่งใน 5 ตัวเลือกสุดท้ายที่ไบเดนจะเลือกไปเป็นรองประธานาธิบดี (แต่สุดท้ายไบเดนก็เลือกแฮร์ริสแทนที่จะเป็นเธอ) และเดมมิงส์เองก็เคยเป็นหัวหน้าตำรวจของเมืองใหญ่ในมลรัฐอย่างออร์แลนโดมาก่อน ทำให้รูบิโอไม่สามารถจะโจมตีเธอในประเด็นที่ว่าพรรคเดโมแครตไม่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามอาชญากรรม (เหมือนกับที่เดโมแครตคนอื่นๆ ถูกโจมตี)

 

อย่างไรก็ดีผลโพลแทบจะทุกสำนักระบุตรงกันว่า รูบิโอมีคะแนนนำอยู่ตั้งแต่ 2-10% ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วเขาน่าจะเป็นผู้ชนะและได้รับเลือกตั้งอีกสมัย (likely Republican)

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X