วันนี้ (1 ตุลาคม) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท ตั้งแต่เวลา 13.30 น. ผู้ชุมนุมนำโดยกลุ่มทะลุฟ้า และแนวร่วม เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อจัดตั้งเวทีสำหรับทำกิจกรรมปราศรัยในชื่อ ‘พอกันที 8 ปีประยุทธ์’
เวลา 15.35 น. ธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ผู้ประสานงานการชุมนุม กล่าวภายหลังพูดคุยกับ พ.ต.อ. บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (สน.) พญาไท ถึงการจัดกิจกรรมในเวลา 16.00 น.
ธัชพงศ์กล่าวว่า ตามปกติแล้วการชุมนุมจะต้องทำหนังสือแจ้งขออนุญาตกับทางตำรวจก่อนจัดกิจกรรม 24 ชั่วโมง แต่ด้วยการนัดหมายเกิดขึ้นเร่งด่วนจึงต้องไปขออนุญาตกับทางกองคับการตำรวจนครบาล 1 เจ้าของพื้นที่โดยตรง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและได้รับอนุญาตให้สามารถจัดกิจกรรมได้
จากนั้นตนจึงนำหนังสือขออนุญาตมายื่นกับตำรวจ สน.พญาไท เพื่อจัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งจุดประสงค์ของการชุมนุมวันนี้เพื่อเป็นการร่วมปราศรัยสะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดของการบริหารงานภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่ร่วมปราศรัยจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแต่ละเครือข่ายมาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
ธัชพงศ์กล่าวยืนยันว่าในวันนี้จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปแยกดินแดงหรือบ้านพักนายกรัฐมนตรีภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต ตามที่มีกระแสข่าว แต่จะเน้นที่การปราศรัยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น และคาดว่ากิจกรรมจะสิ้นสุดภายในเวลา 21.00 น
ด้าน จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการพูดคุยบนเวทีสลับกับการแสดงดนตรีจากทางกลุ่มทะลุฟ้าเท่านั้น
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้จัดกำลังอำนวยความสะดวกทางด้านการจราจรให้กับประชาชนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งการจราจรยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ
ส่วนตำรวจ สน.ดินแดง ได้จัดกำลังรอบบริเวณแยกดินแดงและด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อรองรับสถานการณ์หากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมา
เวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทำกิจกรรมบนเวทีโดยเริ่มจากการแสดงดนตรีจากกลุ่มทะลุฟ้า
เวลา 18.40 น. พล.ต.ต. รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์การปราศรัยที่เกาะพญาไท พร้อมกล่าวว่า ทาง บช.น. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และโดยรอบ พร้อมสังเกตการณ์ในส่วนของเนื้อหาการปราศรัยและการทำกิจกรรมต่างๆ ในเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิดใด
พล.ต.ต. รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า แต่หากพบการกระทำความผิดจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีในภายหลัง ซึ่งภาพรวมยังคงเป็นไปด้วยความสงบ และคาดว่าจะยุติการชุมนุมตามเวลาที่มีการขออนุญาตในเวลาประมาณ 20.00 น.
อย่างไรก็ตามจากนี้หากมีการชุมนุมของกลุ่มใดก็ตาม ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และต้องแจ้งขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนจัดการชุมนุม
เวลา 20.00 น. ตัวแทนผู้ชุมนุมอ่านแถลงการณ์ระบุว่า คำวินิจฉัยกรณีวาระดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่เรื่องแปลกเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
การตีความรัฐธรรมนูญเพื่อจำกัดอำนาจของฝ่ายบริหาร แล้วเพิ่มอำนาจให้ประชาชนเป็นการกระทำที่ง่ายดายอยู่แล้วและเป็นวัตถุประสงค์ที่เราต้องมีศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้กลับไม่ทำ ตรงกันข้ามกลับไปเพิ่มความซับซ้อนที่จะอธิบายให้ได้ว่าหัวหน้าคณะรัฐประหารมีเหตุผลที่เพียงพอที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป จนเกิน 8 ปีแล้วก็ยังคงอยู่ต่อไปได้อีก
สาเหตุที่พวกเราไม่ต้องแปลกใจกับคำวินิจฉัยนี้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลในทางกฎหมาย แต่เพราะในทางการเมืองชัดเจนแล้วว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีที่มาจากระบอบของ คสช.
พวกเขาจึงทำหน้าที่ปกป้อง คสช. อย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่เคยมีคำวินิจฉัย Save ประยุทธ์ มาแล้ว 3 ครั้ง
ปัญหาที่ใหญ่กว่าการอยู่ยาวของคนคนนี้ในวันนี้ คือการหาทางออกจากระบอบผูกขาดอำนาจ ที่องค์กรทั้งหลายมีที่มารวมศูนย์อยู่ที่คนคนเดียว ซึ่งไม่ใช่แค่ประยุทธ์ต้องออกไป แต่ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ สร้างระบบใหม่ที่องค์กรอย่างศาลรัฐธรรมนูญจะตรวจสอบอำนาจรัฐ ไม่ใช่สนับสนุนอำนาจรัฐ
อีกไม่เกิน 8 เดือนนับจากวันนี้ จะต้องมีการเลือกตั้ง และพวกเราพร้อมที่จะไปเลือกตั้งเพื่อสั่งสอนเผด็จการให้รับรู้ว่า พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากประชาชนน้อยจนน่าอายเพียงใด
แต่เราก็รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ายังคงถูกควบคุมโดยศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ และ กกต. ชุดเดิมที่มาจากระบอบ คสช. เช่นเดิม การเลือกตั้งครั้งหน้าไว้ใจไม่ได้เลยว่าการออกกฎกติกา การแบ่งเขตเลือกตั้ง การสั่งลงโทษผู้สมัคร และการนับคะแนน รายงานคะแนน จะเกิดขึ้นอย่างโปร่งใสเป็นธรรม
ดังนั้น การรอคอยวันเลือกตั้งอย่างเดียวจึงไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะทำ แต่พวกเราจะต้องช่วยกันจับตาการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นให้โปร่งใส เปิดโปงกลโกงและกติกาที่ควบคุมโดยระบอบ คสช. สร้างความตระหนักรู้ ตื่นตัวให้กระจายไปทั่ว ให้พี่น้องประชาชนทั่วฟ้าทั่วแผ่นดินพร้อมใจกันเดินไปใช้สิทธิเลือกตั้งสั่งสอนและทุกๆ ครั้งไป เพื่อยืนยันว่าอำนาจการตัดสินใจในประเทศนี้เป็นของประชาซน มิใช่ของคนที่เขาหลอกลวง
จากนั้นเวลา 20.15 น. ผู้ร่วมกิจกรรมได้จุดเทียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความไว้อาลัยต่อการบริหารงานของคณะรัฐบาล โดยมี ธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า อ่านบทกลอนของทางกลุ่ม และประกาศยุติการชุมนุม ในส่วนการชุมนุมครั้งต่อไปยังไม่มีประกาศสถานที่และวัน แต่ขอให้ติดตามผ่านช่องทางติดต่อของกลุ่มทะลุฟ้า
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณรอบของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้จุดพลุไฟขึ้นฟ้า
