วันนี้ (30 กันยายน) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เตรียมประกาศการผนวกรวม 4 ดินแดนของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ณ จัตุรัสแดง กรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศ โดยอ้างผลประชามติที่มิชอบด้วยกฎหมายในดินแดนทั้ง 4 ที่ผู้คนในพื้นที่เห็นชอบกับการขอแยกตัวเป็นเอกราชจากยูเครนและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีเผยว่า ในวันนี้ เวลาราว 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นรัสเซีย จะมีพิธีลงนามอย่างเป็นทางการ ณ เซนต์จอร์จฮอลล์ พระราชวังเครมลิน ระหว่างผู้นำรัสเซียและผู้แทนทั้ง 4 จาก 4 ดินแดน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและโปรรัสเซียในแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงผู้แทนของรัสเซียที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังจากที่ยึดครองพื้นที่ในซาปอริซเซียและเคอร์ซอนทางตอนใต้ของยูเครนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผลประชามติแบบไม่ต้องลุ้นกับความขัดแย้งเฟสใหม่ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น: จุดที่ไม่อาจหวนกลับยิ่งกว่าเดิม?
การผนวกรวมดินแดนทั้ง 4 ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกรณีของไครเมีย ที่ประชาชนในไครเมียลงประชามติที่มิชอบด้วยกฎหมาย ขอแยกตัวแต่เพียงฝ่ายเดียว ก่อนที่จะยื่นความจำนงขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย จนนำไปสู่การลงนามระหว่างกัน และทางการรัสเซียก็ผนวกรวมดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2014 การผนวกรวมดินแดนในครั้งนั้นละเมิดอธิปไตยของยูเครนและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งยังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก
แต่สิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตคือ ตลอด 7 เดือนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน กองทัพรัสเซียไม่สามารถยึดครองพื้นที่ในดินแดนทั้ง 4 ดังกล่าวได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ของแคว้นโดเนตสก์ที่สามารถยึดครองได้ราว 60% เท่านั้น อีกทั้งเมืองซาปอริซเซียที่เป็นศูนย์กลาง เทียบเท่ากับเมืองหลวงของดินแดนที่ชื่อเดียวกันนี้ กองกำลังยูเครนก็ยังสามารถรักษาและช่วงชิงพื้นที่บางส่วนคืนได้จากการรุกรานของรัสเซีย และมีแนวโน้มที่จะโต้กลับอีกในหลายพื้นที่
โดยทางการยูเครนระบุว่า การลงประชามติดังกล่าวจะไม่ได้รับการยอมรับในประชาคมโลก และเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้ว่า ดินแดนเหล่านั้นอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัสเซีย พร้อมวอนประชาคมโลกสนับสนุนยูเครนในศึกสงครามครั้งนี้ พร้อมโดดเดี่ยวรัสเซียอย่างสมบูรณ์
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ย้ำว่า “การผนวกรวมดินแดนใดๆ ในโลกสมัยใหม่เป็นอาชญากรรมต่อทุกๆ รัฐที่พิจารณาว่าเส้นพรมแดนมีสำคัญมาก เป็นสิ่งที่ละเมิดไม่ได้
“สิ่งนี้จะทำให้เขายืนอยู่เพียงลำพัง ยืนอยู่คนละฝั่งกับมนุษยชาติ”
แต่อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียคงจะดื้อแพ่งและผนวกรวมทั้ง 4 ดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับกรณีของไครเมีย และอาจจะอ้างความชอบธรรมในการปกป้องดินแดนเหล่านี้ ในฐานะดินแดนที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัสเซีย
สถานการณ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่นานวันจะยิ่งดูยืดเยื้อ ซับซ้อน และท้าทายหลักการสากลต่างๆ ที่ประชาคมโลกยึดถือร่วมกัน จะมีบทสรุปอย่างไร ไม่อาจละสายตาได้เลย
แฟ้มภาพ: Kremlin Press Office / Handout / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: