ผู้นำที่เลวร้าย! ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ทำ Facebook หลงทาง

ดูเหมือนอนาคตของ Facebook จะน่าเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กำลังนำยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคหลงทางเข้าป่าหาทางออกไม่เจอ โดยที่ปัญหาใหญ่ที่สุดในสายตาของผู้เชี่ยวชาญจากฮาร์วาร์ดก็คือตัวผู้ก่อตั้งเอง

เรื่องความตกต่ำของ Facebook ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นสิ่งที่มีการพูดถึงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าปี 2022 เป็นต้นมา เมื่อ Meta จับสัญญาณอันตรายได้ว่าพวกเขากำลังเสียกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสำคัญอย่างเด็กวัยรุ่นให้กับ TikTok แอปพลิเคชันยอดฮิตจากแดนมังกรและจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วงชิงผู้ใช้กลุ่มนี้กลับคืนมาให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Meta ได้ตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อเลียนแบบ TikTok ตั้งแต่การเพิ่มความสำคัญของวิดีโอขนาดสั้นที่เรียกว่า Reels ทั้งใน Facebook และ Instagram ไปจนถึงการพยายามปรับอัลกอริทึมให้สุ่มเลือกวิดีโอขึ้นมาโดยไม่อิงกับสิ่งที่ผู้ใช้สนใจหรือกดติดตาม

เรื่องนี้ทำให้นักวิเคราะห์กังวลถึงอนาคตของยักษ์ใหญ่รายนี้ เพราะยังมีเรื่องของสงครามโฆษณาที่นอกจากจะเปิดหน้ารบกับ Google แล้วยังมี TikTok เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดการโฆษณาด้วย ไม่นับความพยายามจะผลักดัน Metaverse ที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแม้แต่น้อย

บิล จอร์จ ผู้เชี่ยวชาญจาก Harvard Business School และอดีตซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ Medtronic ชี้ให้เห็นว่าขณะนี้ Facebook อยู่ในสภาพ ‘รถไฟตกราง’ ซึ่งคนที่ทำให้ยักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งสบายๆ มาตลอดต้องอยู่ในสภาพนี้คือตัวของซักเคอร์เบิร์กเองซึ่งมีปัญหาในเรื่องภาวะผู้นำจนทำให้บุคลากรที่มีความสำคัญไม่อยากร่วมงานด้วย

“ผมคิดว่า Facebook จะไม่มีทางทำได้ดีตราบที่เขายังอยู่” จอร์จให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC “เขาน่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลายคนตีจากบริษัท เขาหลงทางอย่างสิ้นเชิง”

จอร์จศึกษาในเรื่องของความล้มเหลวของผู้นำในที่ทำงานมาเป็นเวลากว่า 20 ปี และเขียนหนังสือเรื่อง ‘True North: Leading Authentically in Today’s Workplace, Emerging Leader Edition’ และมองเห็นว่า ‘เจ้านาย’ ที่สูญเสียวิสัยทัศน์ในสิ่งที่พวกเขาเชื่อที่สุด สิ่งที่คนเหล่านี้ให้คุณค่าที่สุด และสูญเสียเจตนาในการเป็นผู้นำที่ดีคือหายนะของบริษัท ซึ่งเขามองเห็นสิ่งเหล่านี้ในตัวของซักเคอร์เบิร์กและ Meta ในปัจจุบัน

โดยในหนังสือของจอร์จมีการระบุเจ้านายที่เลวร้ายเอาไว้ 5 ประเภท ซึ่งเขามองว่าซักเคอร์เบิร์กนั้นเข้าข่ายถึง 3 ประเภทด้วยกัน โดยเริ่มจาก การหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ไม่ยินดีที่จะเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด และโยนความล้มเหลวให้เป็นความผิดของผู้อื่น

เหมือนกรณีที่มูลค่าหุ้นของ Meta ลดลง 2.32 แสนล้านดอลลาร์ภายในวันเดียวซึ่งเป็นการที่หุ้นตกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ทางด้านผู้ก่อตั้ง Facebook ได้กล่าวโทษสาเหตุมากมาย เช่น การเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple แต่ความจริงแล้วหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการผลักดัน Metaverse ที่ใช้งบประมาณมหาศาล และซักเคอร์เบิร์กก็ไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย

เรื่องต่อมาคือการที่ซักเคอร์เบิร์กเลือกที่จะทำตัวโดดเดี่ยวไม่ผูกมิตรกับคนอื่นและยังผลักคนอื่นให้ออกไปห่างๆ เจ้านายประเภทนี้จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือ คำแนะนำ หรือรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น และเรื่องนี้คือสาเหตุที่นำไปสู่ปัญหาใหญ่

ซึ่งจากคนที่เคยรับฟังคำแนะนำจากคนใกล้ชิดอย่าง โรเจอร์ แม็คนามี ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook และทุกอย่างก็ดีมาโดยตลอด จนกระทั่งซักเคอร์เบิร์กเมินใส่เมื่อได้รับการเตือนเรื่องการพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งภายในของสหรัฐฯ จากรัสเซีย ที่ต่อมากลายเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นยุคเสื่อม

ข้อสุดท้ายที่ซัคเกอร์เบิร์กเข้าข่ายคือการเป็นผู้นำที่แสวงหาชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ซึ่งสำหรับจอร์จแล้วเจ้านายประเภทนี้จะไม่เคยพอใจในสิ่งที่มีและพร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้มามากกว่าเดิม และปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้งเราได้เห็นเจตนาของซัคเกอร์เบิร์กที่แสวงหาผลกำไรมากกว่าการทำในสิ่งที่ถูกต้อง

เช่น กรณีที่ Instagram เคยเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ใช้งานโดยเฉพาะในกลุ่มสาววัยรุ่น แต่เขาเลือกที่จะนิ่งเฉยต่อปัญหานี้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือเรื่องของรายได้เป็นลำดับแรก

ฟังแล้ว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จึงดูคล้ายกับ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ในมหากาพย์ Star Wars ผู้เกิดมาพร้อมคำทำนายที่จะนำสมดุลกลับมาแต่เลือกเดินทางผิด เพียงแต่ก็ไม่แน่ว่า ดาร์ธ ซักเคอร์เบิร์ก อาจจะนำสมดุลแห่งโซเชียลมีเดียกลับมาอีกครั้งก็ได้ในอนาคต

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP