เป็นไปได้ว่า Meta บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook กำลังพัฒนาเนื้อหาที่อาจจะต้อง ‘จ่ายเงินเพื่อดู’ สำหรับ Facebook, Instagram และ WhatsApp โดยบริษัทกำลังจัดตั้งองค์กรผลิตภัณฑ์เพื่อระบุและสร้าง ‘คุณสมบัติที่ต้องจ่ายเงิน’ ตามข้อมูลจากโน้ตที่ส่งถึงพนักงาน
ทีมใหม่นี้เป็นการก้าวอย่างจริงจังครั้งแรกของ Meta ในการสร้างคุณสมบัติที่ต้องจ่ายเงินในแอปพลิเคชันหลักของบริษัทที่มีผู้ใช้หลายพันล้านคน มันเกิดขึ้นหลังจากธุรกิจโฆษณาของ Meta ได้รับผลกระทบอย่างมากจากนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple และการใช้จ่ายด้านโฆษณาที่ลดลงในวงกว้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- มุ่งหน้าต่อไป! Meta ประกาศการอัปเดตเสร็จสิ้น ผู้ใช้ Facebook และ Instagram กว่า 100 ประเทศ สามารถแชร์ NFT ได้แล้ว
- Facebook ออกคำแนะนำสำหรับแบรนด์ โดยหวังจะช่วยให้ ‘ประสิทธิภาพโฆษณา’ กลับมาเป็นเหมือนเดิม หลังเผชิญการปิดกั้นข้อมูลผู้ใช้จาก iOS
- คนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้หันหลังให้ Facebook พบจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนในช่วง 2 ปีมานี้ลดลงกว่า 25%
ทีมนี้จะถูกเรียกว่า New Monetization Experiences และนำทีมโดย Pratiti Raychoudhury ที่เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัท
ในการให้สัมภาษณ์กับ The Verge รองประธานฝ่ายการสร้างรายได้ของ Meta อย่าง John Hegeman กล่าวว่า บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจโฆษณา และไม่มีแผนที่จะให้ผู้คนจ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณาในแอปของตน
“ผมคิดว่าเรามองเห็นโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ ฟีเจอร์ และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผู้คนยินดีจ่ายและยินดีที่จะจ่าย” เขากล่าว เขาปฏิเสธที่จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ต้องชำระเงิน ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่
รายได้เกือบทั้งหมดของ Meta นั้นมาจากการโฆษณา และแม้ว่าหลายๆ แอปของบริษัทจะมีฟีเจอร์ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอยู่แล้ว แต่ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียมิได้ให้ความสำคัญกับการเก็บเงินจากผู้ใช้จนกระทั่งตอนนี้
โดยในระยะยาว บริษัทเล็งเห็นว่าฟีเจอร์ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มจะกลายเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ เขากล่าวว่า “ในระยะเวลา 5 ปี ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างมาก”
ณ ตอนนี้แอดมินกลุ่มสามารถเก็บเงินจากสมาชิกเพื่อเข้าถึงเนื้อหาพิเศษได้แล้ว รวมถึงการส่งดาวให้ครีเอเตอร์ที่มีมานานแล้วอีกด้วย ส่วน WhatsApp นั้นจะเรียกเก็บเงินจากบัญชีธุรกิจเพื่อส่งข้อความต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้ และ Instagram เพิ่งประกาศว่าครีเอเตอร์สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ในการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษได้
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Mark Zuckerberg กล่าวว่า บริษัทจะไม่รับส่วนแบ่งจากฟีเจอร์ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มและการสมัครรับข้อมูลจนกว่าจะถึงปี 2024
อ้างอิง: