วันนี้ (6 กันยายน) เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมองโกเลีย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้า Business Networking ระหว่างไทยและมองโกเลีย พร้อมด้วย บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์, อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และคณะ
จุรินทร์กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้มีภาคเอกชนมา 6 บริษัท เป็นบริษัทที่ลงทุนด้านพลังงาน 3 บริษัท บริษัทด้านสุขภาพ 1 บริษัท และบริษัทที่สนใจมาเปิดตลาดสินค้าที่นี่ 2 บริษัท มูลค่าการค้าการลงทุนไทย-มองโกเลียยังถือว่าไม่มาก แต่วานนี้ (5 กันยายน) หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 เราได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันสำหรับการค้า เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันจาก 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2027
สำหรับการลงทุนจะเพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2027 เช่นกัน ขณะนี้เรื่องการลงทุนอย่างเดียว ผู้ประกอบการไทยมาลงทุนที่นี่อย่างน้อย 4 บริษัทขนาดใหญ่ ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีบริษัท บ้านปู, บริษัท เสริมสร้าง (Sermsang Power Corporation Plc.), บริษัท เอ็นเสิร์ฟ (Enserv UB llc.) และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
มูลค่าการลงทุนประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท และอนาคตตนคิดว่าคนไทยสามารถมาขยายการลงทุนที่นี่ได้ โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาด ซึ่งจำนวนหนึ่งมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขายให้กับรัฐบาลมองโกเลีย และตนทราบว่าโซลาร์เซลล์ ถ้าอากาศเย็นและแดดแรงจะเพิ่มผลผลิตไฟฟ้าได้ถึง 30% ซึ่งที่นี่ตรงสเปก เพราะแดดแรงมากและอากาศเย็น จะเป็นการลงทุนที่มีอนาคต รวมถึงด้านอื่นด้วย
“วันนี้นักลงทุนของไทยมาแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพในการลงทุนที่ประเทศมองโกเลีย และต่อไปไทยและมองโกเลียจะจัดกิจกรรมพิเศษให้หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของมองโกเลียพบกับผู้สนใจลงทุนชาวไทย และ BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) ของเราจะได้พบกับนักลงทุนชาวมองโกเลีย เพื่อดึงนักลงทุนไปลงทุนในไทยด้วย ซึ่งวิน-วินทั้งคู่ต่อไปในอนาคต ซึ่งเมื่อมีกำไรก็จะนำกลับประเทศ สุดท้ายรายได้ก็จะกลับไปยังประเทศไทย” จุรินทร์กล่าว
จุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ตนเองได้พบกับ กอมโบยาฟ ซานดานชาตาร์ ประธานรัฐสภาของมองโกเลีย ได้แลกเปลี่ยนความคิดพัฒนาการค้าการลงทุนร่วมกัน และท่านถือเป็นบุคคลสำคัญลำดับต้นของมองโกเลีย เป็นประธานรัฐสภา ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยกับมองโกเลียมีมายาวนาน เพราะเรามีกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย-มองโกเลียอยู่ในรัฐสภา และมีทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับสมาชิกวุฒิสภา เป็นสมาชิกของกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย-มองโกเลีย มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่าง 2 ประเทศอยู่ต่อเนื่อง นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับมองโกเลียที่มีมา 48 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยกับรัฐสภามองโกเลียก็ยาวนานเช่นเดียวกันและเป็นไปด้วยดี
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า สำหรับการเดินทางเยือนมองโกเลียครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดฉากการค้า ถือเป็นโอกาสฉลองครบรอบ 48 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศของไทยกับมองโกเลีย ซึ่งไทยยังสามารถใช้มองโกเลียเป็นประตูการค้าสู่รัสเซียหรือกลุ่มประเทศที่แตกตัวจากรัสเซียได้
ขณะเดียวกัน มองโกเลียก็สามารถใช้ไทยเป็นประตูการค้าสู่อาเซียนได้ ปัจจุบันมูลค่าการค้าไทย-มองโกเลียในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2017-2021) เฉลี่ยปีละ 55.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2021 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 53.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 147% จากปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกศักยภาพของไทย ได้แก่ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ สิ่งปรุงรสอาหาร และผลิตภัณฑ์ยาง
ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากมองโกเลีย ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สินค้าอุปโภค-บริโภคอื่นๆ สบู่ ผงซักฟอก เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ