ทอม แฮงส์ ขึ้นชื่อเรื่องการรับบทในภาพยนตร์ชีวประวัติหลายเรื่อง ทั้ง Sully, Saving Mr. Banks และภาพยนตร์เข้าชิงออสการ์ The Post ล่าสุดเขายังกำลังจะรับบทเป็นเพื่อนบ้านคนโปรดของชาวอเมริกันอย่าง เฟรด โรเจอร์ส (Fred Rogers) ในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง ‘You Are My Friend’ สำหรับชาวอเมริกันแล้ว เฟรด โรเจอร์ส เป็นที่รู้จักดีจากรุ่นสู่รุ่น แต่ไม่แปลกถ้าคุณไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อผู้ชายคนนี้เลยสักครั้ง
เฟรด โรเจอร์ส เป็นพิธีกรรายการทีวีสำหรับเด็กที่ใช้ชื่อว่า Mr. Rogers’ Neighborhood ซึ่งออกอากาศมาอย่างเนิ่นนานตั้งแต่ปี 1967 จนถึงปี 2001 รายการของเขาโด่งดังด้วยเอกลักษณ์ของเฟรด ที่จะพูดด้วยเสียงนุ่มๆ สอนเด็กๆ ตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ไปจนถึงประเด็นใหญ่ๆ ที่สำหรับผู้ใหญ่ยังยาก อย่างเช่นการอดทน การหย่าร้าง การเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ตัวเองเป็น และการยอมรับในความผิดพลาด
เขาถือเป็นบุคคลสำคัญที่คอยสอนเด็กๆ ตั้งรุ่นพ่อยันรุ่นลูกให้รู้จักรักตัวเอง และรักผู้อื่นในแบบที่พวกเขาเป็น ในรายการทีวีโชว์ Mr. Rogers’ Neighborhood เขามักจะเริ่มด้วยการหยิบคาร์ดิแกนหลากสีมาใส่ (ซึ่งมีบันทึกว่าแม่ของเขาเป็นคนถักคาร์ดิแกนเหล่านั้นทุกตัว) ถอดรองเท้าหนังและสวมรองเท้าผ้าใบ พร้อมร้องเพลงธีมรายการที่ชาวอเมริกันหลายคนร้องตามได้อย่างเพลง It’s a Beautiful Day in This Neighborhood
THE STANDARD ได้รวบรวม 5 เหตุผลหลักๆ ที่จะทำให้คุณรู้จักเขามากขึ้น และตอบคำถามว่าทำไม เฟรด โรเจอร์ส ถึงเป็นเพื่อนบ้านที่ชาวอเมริกันทุกคนหลงรัก
https://www.youtube.com/watch?v=FL3xSctTB5c
Photo: cdn.playbuzz.com
- ใส่ใจในการสอนเด็กๆ
มีข้อมูลจากสารคดี Mister Rogers & Me บอกไว้ว่า เฟรด โรเจอร์ส เคยมีวัยเด็กที่น่าสงสาร เขาถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งเพราะเขาตัวอ้วนและขี้อาย เฟรดเล่าว่าเขาเคยร้องไห้ตอนอยู่คนเดียวบ่อยๆ แล้วก็เริ่มร้องไห้ไปแต่งเพลงกับเปียโนไป ซึ่งนั่นทำให้เขาอยากหันมาทำรายการที่นำเสนอสิ่งดีๆ และสอนให้เด็กรู้จักความอ่อนโยน มองข้ามภาพลักษณ์ภายนอกของทุกคน และเลือกที่จะทำความรู้จักคนจากภายในแทน เขาเคยแต่งเพลง ‘It’s You I Like’ และนำเพลงนั้นมาร้องอีกครั้ง ออกในรายการพร้อมกับเด็กน้อยผู้ผ่านการผ่าตัดกระดูก และต้องนั่งบนรถเข็นตั้งแต่ 4 ขวบ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับแฟนรายการตัวน้อยของเขา นอกจากเพลง ‘It’s You I Like’ แล้ว เขายังเป็นคนแต่งเพลงทุกเพลงที่ถูกใช้ในรายการตลอด 30 กว่าปี และยังมีเพลงนอกรายการกว่าอีกร้อยเพลง
https://www.youtube.com/watch?v=5BZlyxS37Kk&t=315s
- รายการของเขาก็ช่วยทำให้เด็กใจเย็นขึ้นจริงๆ
มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเปรียบเทียบระหว่างเด็กที่เลือกดูรายการ Sesame Street และ Mister Rogers’ Neighborhood ผลการศึกษาพบว่าเด็กที่ดูรายการ Mister Rogers’ Neighborhood ของเฟรด โรเจอร์ส มีความจำเกี่ยวกับเนื้อหาของรายการได้ดีกว่า และยังพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีความอดทนต่อการรอคอยได้นานกว่าด้วย
อาจเป็นเพราะครั้งหนึ่งในรายการ เขาเคยเชิญนักชีววิทยาทางทะเลมาสอนเด็กๆ เกี่ยวกับปลาในตู้ เขาจึงเอาไมโครโฟนใส่ลงไปในตู้ปลาเพื่อโชว์ให้เด็กๆ เห็นว่าเวลาปลากินก็มีเสียงเหมือนกัน แต่ในขณะที่อัดเทปนั้น ปลาในตู้ดันไม่หิวและไม่กินอาหาร จนนักชีววิทยาทางทะเลต้องพูดเร่งให้ปลากินเพื่อไม่ให้รายการมีเดดแอร์ แต่ เฟรด โรเจอร์ส กับยืนรออย่างใจเย็น แม้ทีมงานจะเสนอให้เขาอัดเทปใหม่อีกครั้ง แต่เฟรดก็ปฏิเสธและบอกว่า แบบนี้แหละดีแล้ว เด็กๆ จะได้รู้จักการอดทนรอคอย
Photo: i.imgur.com
- เขาจิตใจดีทั้งในจอ และนอกจอ
นอกจากจะรับหน้าที่ดำเนินรายการทีวีโชว์สำหรับเด็กแล้ว ในชีวิตจริง เฟรด โรเจอร์ส ยังเป็นศาสนาจารย์ในศาสนาคริสต์ด้วย และทุกครั้งที่เขาถูกถามเรื่องรักร่วมเพศในมุมมองของคริสเตียน เขามักจะตอบเสมอว่า “พระเจ้ารักทุกคนในแบบที่ทุกคนเป็น” ซึ่งการรักตัวเองเป็นเรื่องที่เขามักพร่ำบอกในรายการเสมอ
นอกจากนี้เขายังเป็นที่รักของกลุ่มนักข่าว เพราะเขาชอบพูดคุยถามไถ่ทุกคนที่มาสัมภาษณ์เขา เฟรนด์ลีถึงขนาดถ่ายรูปกับนักข่าวเหล่านั้น ขอเบอร์ติดต่อ และคอยอัพเดตชีวิตกันเสมอ และไม่ใช่แค่กับนักข่าวเท่านั้น เพราะมีเรื่องเล่าว่าเขาเคยต้องเดินทางไปยังบ้านของประธานใหญ่ใน PBS ซึ่งแน่นอนว่ามีคนขับรถมารับ และเมื่อรู้ว่าคนขับรถคนนั้นต้องนั่งรอเป็นชั่วโมง เขาจึงชวนให้คนขับรถเข้ามากินข้าวด้วยกัน และระหว่างทางกลับบ้าน คนขับรถก็พูดขึ้นมาว่านี่เป็นทางผ่านบ้านของเขาพอดีเฟรดเลยขอให้เขาแวะที่บ้านของคนขับรถซะเลย และเฟรดก็เข้าไปทักทายสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ของคนขับรถผู้โชคดีคนนั้นด้วย ภายหลังคนขับรถคนนั้นก็ออกมาพูดว่าค่ำคืนนั้นเป็นคืนที่ดีที่สุดในชีวิตเขา เพราะเฟรดไม่ได้เข้าไปทักทายครอบครัวเขาเท่านั้น เฟรดยังเล่นเปียโนโชว์ และสังสรรค์กับพวกเขาตลอดทั้งคืน
Photo: assets.nydailynews.com
- เขาช่วยชีวิตวงการโทรทัศน์เอาไว้
รู้หรือไม่ว่าเมื่อปี 1969 สหรัฐอเมริกาในสมัยของ ริชาร์ด นิกสัน เคยจะตัดงบการกระจายสื่อโทรทัศน์ และแน่นอนว่าอาจส่งผลต่อรายการของเขา เฟรด โรเจอร์ส ตรงไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. และขึ้นกล่าวต่ออนุกรรมการวุฒิสภาที่ดูแลการสื่อสาร (U.S. Senate Subcommittee on Communication) ถึงประโยชน์ที่เขาสร้างขึ้นผ่านรายการทีวี เขาใช้ถ้อยคำง่ายๆ เพื่อถ่ายทอดความเห็นของเขาว่า
“นี่คือสิ่งที่ผมทำทุกวัน ผมดูแลเด็กทุกคนทุกวัน ช่วยเหลือให้เด็กๆ รู้ว่าพวกเขาพิเศษ ผมจบรายการด้วยการบอกว่าพวกเขาทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษได้ด้วยการเลือกที่จะเป็นตัวเอง ไม่มีใครบนโลกเหมือนกัน และผมรักพวกเขาในแบบที่พวกเขาเป็น ผมรู้สึกว่าถ้าพวกเราในสื่อโทรทัศน์สื่อสารความรู้สึกเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน และอยู่ภายใต้การควบคุม พวกเราจะดูแลและสร้างสรรค์สังคมเกี่ยวกับสุขภาพจิตได้อย่างดี”
เฟรด โรเจอร์ส ยังพูดเนื้อเพลงที่เขาแต่ง ‘What Do You Do with the Mad that You Feel?’ ซึ่งพูดถึงการรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง และหลังจากสปีชของเขา คณะกรรมการก็ตัดสินเพิ่มงบให้กับสถานีโทรทัศน์ PBS จาก 9 ล้านเป็น 22 ล้านเหรียญสหรัฐทันที
- เขารักทุกคนอย่างเท่าเทียม
ตัวอย่างสุดท้ายที่ทำให้อดตกหลุมรัก เฟรด โรเจอร์ส ไม่ได้ เขาเป็นคนชวนให้ ฟรองซัวส์ เคลมมอนส์ (Francois Clemmons) นักแสดงชาวแอฟริกัน-อเมริกัน หรือนักแสดงผิวสีคนแรกเข้ามามีบทบาทในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคิดดูว่าในยุคนั้น (ช่วงปี 60) ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่และน่าจับตามองอย่างมาก
เฟรด พบเขาในโบสถ์และหลงรักเสียงร้องของเขา เฟรดจึงเสนอบทตำรวจในรายการ และทำให้เขามีบทบาทในรายการเป็น 10 ปี แต่เทปที่ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นที่จดจำ และซาบซึ้งใจที่สุดคือเทปในปี 1969 ที่เฟรดเล่นบทบาทผ่อนคลายช่วงฤดูร้อน ด้วยการแช่เท้าในสระน้ำพลาสติก ซึ่งเฟรดตัดสินใจชวนให้ตำรวจฟรองซัวส์ มาแช่เท้าในสระน้ำด้วย จนกลายเป็นซีนที่คนดูได้เห็นนักแสดงผิวขาวและผิวสีแช่เท้าในน้ำด้วยกันแบบเพื่อนสนิท และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ดี และแสดงถึงการยอมรับทุกเชื้อชาติอย่างเท่าเทียม พวกเขายังมาร่วมถ่ายภาพโดยโพสท่าเท้าแช่น้ำร่วมกันในเทปสุดท้ายเมื่อปี 1993 ด้วย
Fred Rogers และ Francois Clemmons ในเทปตอนสุดท้ายของทั้งคู่ในปี 1993
Photo: media.npr.org
ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ เฟรด โรเจอร์ส สร้างรอยยิ้มให้เราได้ อย่างการที่เขานั่งไล่ตอบจดหมายจากแฟนรายการวัยเด็กทุกฉบับซึ่งมีตั้งแต่ 50-100 ฉบับต่อวัน ไปจนถึงเรื่องราวเมื่อเขาใช้บริการรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กและทุกคนจำเขาได้ ทั้งขบวนรถไฟเลยร้องเพลงธีมของรายการเขาพร้อมกัน เอาเป็นว่าถ้าคุณลองเสิร์ชชื่อผู้ชายคนนี้และอ่านเรื่องราวของเขาทั้งหมด คุณอาจจะอยากมีเพื่อนบ้านอย่าง เฟรด โรเจอร์ส ได้เหมือนกัน
You Are My Friend นำแสดงโดย ทอม แฮงส์ และได้ฝีมือการกำกับจากผู้กำกับหญิง มารีแอลล์ เฮลเลอร์ โดยจะเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เฟรด โรเจอร์ส และเพื่อนนักข่าวคนสนิทของเขา ทอม จูน็อด (Tom Junod)
หน้าที่ของพวกเราในฐานะมนุษย์คือการช่วยเหลือให้ผู้คนรู้คุณค่าของตัวให้ได้มากที่สุด เราทุกคนมีในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยมี และอาจจะไม่มีทางมี บางสิ่งภายในตัวเราที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะสนับสนุนให้แต่ละคนค้นพบเอกลักษณ์ความแตกต่างของตัวเอง และหาวิธีการที่จะนำเสนอมัน
-Fred Rogers
- เฟรด โรเจอร์ส เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2003
- จอห์น โรเจอร์ส ลูกชายคนเล็กของ เฟรด โรเจอร์ส ออกมาบอกว่าพ่อของเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของ ทอม แฮงส์ และครอบครัวดีใจมากที่ได้ ทอม แฮงส์ มารับบทเป็น เฟรด โรเจอร์ส