‘กาหลมหรทึก’ (อ่านว่า กา-หน-มะ-หอ-ระ-ทึก) นวนิยายไทยชั้นดีแนวสืบสวนสอบสวน ผลงานของนักเขียนหนุ่มนามปากกา ‘ปราปต์’ (ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์) ที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2557 และได้รับคำชมจากผู้อ่านมากมาย ทั้งยังกวาดรางวัลจากเวทีการประกวดวรรณกรรมมากมาย ตั้งแต่ รางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมนายอินทร์อะวอร์ด ประเภทสืบสวน ประจำปี พ.ศ. 2557, รางวัลชมเชยการประกวดหนังสือดีเด่น ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2558, รองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ปี พ.ศ. 2558 ทั้งยังไปไกลถึงรอบสุดท้าย (Short List) ของเวทีรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (S.E.A. Write) มาแล้ว
ปราปต์ ผู้เขียนดึงเราย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2486 ช่วงที่มหาสงครามเอเชียบูรพากำลังปะทุ เกิดเหตุฆาตกรรม ‘วาด’ เด็กหญิงคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยมในบ้านพักของเธอกับแม่ย่านวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นชนวนเหตุของเรื่องที่ทำให้กองตำรวจสอบสวนกลางต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในคดีที่ลึกลับและท้าทายมากที่สุด โดยมีหลักฐานเพียงแค่รอยสักปริศนา 5 คำ ‘เหย้า เจ้า แพะ ทิ้ง พงส์’ ที่สักบนหน้าผาก ข้อมือ และข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้ตายเป็นเบาะแสเริ่มต้นในการคลี่คลายคดี
‘กลโคลง’ หรือการแต่งโคลงสี่ในรูปแบบพิเศษ เป็นสิ่งที่ผู้เขียนซ่อนคำใบ้และปริศนาไว้ จึงทำให้เรื่องราวมีการเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน อีกทั้งยังมีการใช้ภาษาไทยทั้งเก่าและใหม่ได้อย่างเข้มข้นน่าสนใจ รวมทั้งความพยายามของปราปต์ในการหาข้อมูลประวัติศาสตร์ไทยในยุคนั้นมาประกอบ เพื่อเพิ่มมิติในการเล่า และสร้างภาพในจินตนาการให้สมจริงมากยิ่งขึ้น เราจะนึกภาพตามได้ทุกฉากทุกตอน แทบจะได้ยินเสียงกรีดร้องลอยออกมาจากหน้ากระดาษ
หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้เป็นแค่นวนิยาย แต่เป็นหนังสือที่สอดแทรกเกร็ดความรู้เข้าไปด้วย อีกทั้งการผูกเรื่องเข้าด้วยกัน ยังเกี่ยวพันกับสถานที่ที่มีอยู่จริงได้อย่างประณีต ทำให้ผู้อ่านคล้อยตาม คล้ายมีส่วนร่วมเป็นตัวละครหนึ่งในนั้น ช่วยตีความและสืบไปตามเรื่องราว และเมื่อไรก็ตามที่เหมือนจะถึงจุดคลี่คลาย นักเขียนก็จะหักมุมให้ประหลาดใจ จนทำให้ผู้อ่านติดตามด้วยความตื่นเต้นไปตลอดตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ปราปต์ใช้เวลาเขียนต้นฉบับจำนวน 120 หน้า A4 ในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้นักเขียนคนนี้เคยคิดจะเลิกเขียนหนังสือ แต่พอเห็นประกาศรับสมัครต้นฉบับรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ก็ทำให้ปราปต์รู้สึกมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อปิดต้นฉบับให้ทันกำหนด และมันก็สำเร็จออกมาเป็นนวนิยายที่ดีมากๆ เล่มหนึ่ง
หลายคนที่หยิบนวนิยายสืบสวนเล่มนี้ขึ้นมาอาจจะไม่รู้มาก่อนว่านักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนคนนี้ เคยเป็นนักเขียนนิยายวัยรุ่นโรแมนติกคอเมดี้ที่มีผลงานตีพิมพ์ออกมาแล้วหลายเล่ม เช่น รักต้องปล้ำ ในปี พ.ศ. 2547, สาวป่วน…ก๊วน รด. ในปี พ.ศ. 2548 และ สาวป่วน-ก๊วนเฟรชชี่ ในปี พ.ศ. 2549 และจริงๆ เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเขียนจากเรื่อง เกาะนาคา นวนิยายที่โพสต์ให้คนเข้าไปอ่านกันได้ในเว็บ Dek-D.com
ล่าสุดทางช่อง One 31 ตัดสินใจนำนวนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ฟอร์มยักษ์ที่ได้ วรวิทย์ ขัตติยโยธิน มาเป็นผู้กำกับ พร้อมกับนักแสดงคุณภาพอย่าง ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, วิว-วรรณรท สนธิไชย, โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์ และ นพพล โกมารชุน ฯลฯ ในการมาร่วมไขคดีปริศนาที่ดำมืดที่สุด โดยมีกำหนดออกกาศในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
Photo: หนังสือ กาหลมหรทึก