วานนี้ (16 สิงหาคม) องค์การโบราณวัตถุอิสราเอล เปิดเผยการค้นพบชุดลูกเต๋าทำจากกระดูกข้อนิ้วหรือ ‘แอสตรากาลี’ จำนวน 530 ชิ้น สำหรับเล่นเกมและทำนายโชคชะตา อายุราว 2,300 ปี จากถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของภูมิภาคเชิงเขาจูเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของมาเรชา เมืองในสมัยเฮลเลนิสติก
คณะนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งของอิสราเอลระบุว่า กระดูกของแพะ แกะ และวัวควายเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นลูกเต๋าโดยผู้หญิงและเด็กเป็นหลัก สำหรับเล่นเกมและประกอบพิธีทำนายโชคชะตา โดยกระดูกบางส่วนถูกเหลา เจาะรู หรือเติมตะกั่ว เพื่อโยนเป็นลูกเต๋าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ลูกเต๋าหลายสิบชิ้นปรากฏจารึกภาษากรีก ซึ่งรวมถึงชื่อของเทพและเทพีที่เกี่ยวกับการขอพร และความปรารถนาของมนุษย์ในยุคโบราณ เช่น อะโฟรไดต์, อีรอส, เฮอร์มีส, เฮรา และไนกี ขณะลูกเต๋าชิ้นอื่นๆ ปรากฏจารึกอธิบายวิธีการเล่น และบทบาทในเกม เช่น ‘โจร’, ‘หยุด’ และ ‘เจ้าถูกเผา’ เป็นต้น
ลี เพอร์รี-กัล นักโบราณคดีสัตว์ กล่าวว่าลูกเต๋าเหล่านี้สะท้อนว่ายุคโบราณที่เต็มไปด้วยความลำบากและความไม่แน่นอน ผู้คนต่างแสวงหาความช่วยเหลือจากปัจจัยภายนอกอย่างเวทมนตร์คาถาและโลกลี้ลับ โดยมีการใช้ ‘แอสตรากาลี’ เพื่อเล่นเกม และยังมีการพบตัวอย่างเด็กที่ถูกฝังพร้อมลูกเต๋าลักษณะคล้ายกัน ด้วยความเชื่อว่าเด็กจะได้ใช้ลูกเต๋าในภพภูมิหน้า
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว