ครม. เคาะมาตรการด้านเศรษฐกิจ ขณะที่นายกฯ ห่วงปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ผุดโครงการประชารัฐยุติธรรม รักเด็กปลอดภัย

วันนี้ (16 สิงหาคม) พล.อ. ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.) โดยระบุว่า รัฐบาลมีความเห็นใจผู้ประกอบการ รถยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาวิกฤตน้ำมันของโลกและสถานการณ์โควิด ทำให้ต้นทุนการประกอบอาชีพชีพสูงขึ้น ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ 

เพื่อเป็นการลดผลกระทบดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ที่มีการจดทะเบียนไว้ราว 270,000 คน ครม. จึงอนุมัติในหลักการให้ลดภาษีประจำปีลง 90% จากที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะครบกำหนดเสียภาษีในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566 เช่น รถแท็กซี่ทั่วไปลดจาก 685 บาท เหลือ 68.50 บาท รถยนต์สามล้อ 185 เหลือ 18.50 บาท

ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ประชุมอนุมัติให้ขยายระยะเวลาวงเงินโครงการสินเชื่อ Exim BIZ Transformation Loan ของธนาคาร เพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยขยายออกไปอีกหนึ่งปีจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ไปสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เพื่อช่วยเหลือและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการอย่างทั่วถึงตามกรอบวงเงินที่ได้อนุมัติไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว 5,000 ล้านบาทสำหรับทุกขนาดธุรกิจ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ S-Curve และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง 

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรักษาส่วนแบ่งการตลาดของไทยในการส่งออกกุ้งซึ่งเป็นแนวหน้าในตลาดโลก ที่ประชุมจึงอนุมัติให้จัดเงินสงเคราะห์เกษตรกรจำนวน 510 ล้านบาทในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งของไทย ไม่ว่าจะเป็น การเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง การแปรรูป การพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ 

และยังเห็นชอบโครงการเยียวยาศิลปินที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่เข้าข่ายผู้ประกันตนตามกฏหมายประกันสังคมอีกจำนวน 2,459 คน รายละ 5,000 บาท รวม12 ล้านบาท ที่ตกค้างอยู่เดิม 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่เพียงแต่ช่วยเหลือเยียวยาทางด้านเศรษฐกิจ แต่จะมีมาตรการดูแลด้านสังคมควบคู่ไปด้วย โดยสิ่งที่เห็นผลเป็นรูปธรรมแล้วคือการผลักดันการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประกาศการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ หรือการล่อลวงเด็กและเยาวชนผ่านทางสื่อออนไลน์ ตลอดจนเกมและแชตต่างๆ ในการใช้ประโยชน์ในทางอนาจารการล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขู่ คุกคาม ดึงเข้าสู่การค้ามนุษย์ ซึ่งมีมากกว่า 600,000 กรณีในปี 2564 ซึ่งส่วนตัวห่วงใยวัยรุ่นกลุ่มนี้ 

จึงสั่งการให้หามาตรการปกป้องไม่ให้ลูกหลานเสียอนาคต ได้สั่งการให้ทำโครงการจัดการการแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ตภายใต้โครงการประชารัฐยุติธรรม รักเด็กปลอดภัย เพื่อที่เป็นช่องทางสื่อสารโดยตรงกับเหยื่อผ่านทางเว็บไซต์ โดยมีทีมสหวิชาชีพให้ความช่วยเหลือต่อเด็กที่เป็นเหยื่อ และให้คำแนะนำกับผู้ปกครอง ซึ่งเทคโนโลยีมีทั้งคุณและทั้งโทษหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง จึงขอให้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์ เพราะข้อมูลต่างๆ อยู่ในโทรศัพท์ทั้งหมด