ADVANC - รายงานกำไรปกติ 2Q65 ตามคาด ปรับเป้าหมายการเงินปี 2565 ลดลง

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวานนี้ (8 สิงหาคม) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ( ADVANC ) รายงานกำไรสุทธิ 2Q65 จำนวน 6.3 พันล้านบาท ทรงตัว QoQ แต่ลดลง 10.5%YoY ทั้งนี้ใน 2Q65 ADVANC รับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 335 ล้านบาท และรายได้บัตรเติมเงินที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (หลังภาษี) 192 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากตัดรายการเหล่านี้ออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5%QoQ แต่ลดลง 5.2%YoY เป็นไปตาม Consensus คาด ขณะที่กำไรปกติ 1H65 คิดเป็นสัดส่วน 45% ของประมาณการกำไรเต็มปี

นอกจากนี้ ADVANC ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H65 ในอัตรา 3.45 บาทต่อหุ้น (ผลตอบแทน 1.7%, อัตราการจ่ายเงินปันผล 81%) XD วันที่ 19 สิงหาคม 2565

สำหรับรายได้จากการให้บริการหลักได้แรงหนุนจากธุรกิจ FBB และธุรกิจลูกค้าองค์กร ADVANC รายงานรายได้จากการให้บริการหลัก (ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจ FBB และธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ) 3.33 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6%QoQ และ 2.9%YoY รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ อยู่ที่ 2.92 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3%QoQ และ 0.4%YoY

โดยการเติบโต QoQ และ YoY ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และรายได้ค่าบริการโทรระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม Blended ARPU (รายได้เฉลี่ยต่อหมายเลขต่อเดือน) ปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในระบบเติมเงิน นอกจากนี้ยังมีการเสนอแพ็กเกจ 5G ในระดับราคาที่ต่ำลงเพื่อเร่งเพิ่มการใช้งาน 5G

ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสุทธิยังแข็งแกร่งที่ 881,000 เลขหมาย โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวรวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ธุรกิจ FBB ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ADVANC ระบุว่าบริษัทเริ่มเห็นความต้องการที่ลดลง เนื่องจากการทำงานหรือเรียนที่บ้านลดลง ในด้านการแข่งขัน ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นอยู่ที่ 299 บาท (จากเดิมเริ่มต้นที่ 399 บาท) เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายเสนอการลดราคาแพ็กเกจเพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้า

ขณะที่ราคาแพ็กเกจที่ถูกลงช่วยหนุนให้จำนวนผู้ใช้บริการ FBB เพิ่มขึ้นสุทธิ 106,000 ราย (รวม 1.97 ล้านราย) อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นได้แรงหนุนจากแพ็กเกจราคาเริ่มต้นที่ต่ำ ซึ่งกดดันให้ ARPU (รายได้เฉลี่ยต่อหมายเลขต่อเดือน) ลดลง

ส่วนธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ ยังเติบโตต่อเนื่องหลังการระบาดของโควิด โดยรายได้อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5%QoQ และ 38%YoY จากการเติบโตของความต้องการใช้บริการคลาวด์และไอซีทีโซลูชัน

กระทบอย่างไร:

ในวันนี้ราคาหุ้น ADVANC ปรับเพิ่มขึ้น 0.99%DoD สู่ระดับ 205.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.52%DoD อยู่ที่ระดับ 1,617.25 จุด

แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:

ADVANC ปรับเป้าหมายทางการเงินปี 2565 ลดลง ซึ่งเดิมเป้ารายได้จากการให้บริการหลักเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง EBITDA เติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ และวางงบลงทุนไว้ที่ 3-3.5 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมคลื่นความถี่)

แต่หลังจากประกาศผลประกอบการ 2Q65 บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้จากการให้บริการหลัก เป็นเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ EBITDA คงที่ถึงลดลงเล็กน้อย และงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท

ส่วน SCBS ใช้สมมติฐานรายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 3.4% เทียบกับ 2% ใน 1H65 ดังนั้นจึงเล็งเห็น Downside เพียงเล็กน้อยต่อสมมติฐาน และคงคาดการณ์กำไรปกติปี 2565 ที่ 2.83 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%YoY

อย่างไรก็ดี SCBS คง Tactical Call สำหรับ ADVANC ไว้ที่ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 235 บาท โดยสิ่งสำคัญที่ต้องติดตามคือ การอนุมัติของผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ซึ่งจะประชุมในวันที่ 23 กันยายน 2565

สำหรับปัจจัยเสี่ยงและความกังวลที่ต้องติดตามคือ การแข่งขันที่สูงอย่างต่อเนื่องในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB ใน 2H65 อาจส่งผลทำให้กำไรฟื้นตัวจำกัด

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH