วันนี้ (5 สิงหาคม) แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางพบ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยทั้งสองตกลงที่จะประสานความร่วมมือเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน หลังจีนเปิดฉากซ้อมรบด้วยขีปนาวุธในบริเวณดังกล่าวไปเมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม)
ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นรายงานว่า มีขีปนาวุธทิ้งตัว 5 ลูกตกลงในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (Exclusive Economic Zone) ในระหว่างการซ้อมรบ ซึ่งคิชิดะได้วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของจีนอย่างรุนแรงในระหว่างการพบปะกับเพโลซี โดยกล่าวว่า การกระทำของจีนเป็นภัยคุกคามญี่ปุ่น อีกทั้งยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค พร้อมเรียกร้องให้จีนยุติการซ้อมรบนี้ทันที
ด้านเพโลซีกล่าวว่า “จีนดำเนินการซ้อมรบโดยอาจใช้การเดินทางเยือนของเราเป็นข้ออ้าง” พร้อมย้ำว่า ทริปที่เกิดขึ้นไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ปัจจุบันในเอเชีย อย่างไรก็ตาม เพโลซีปฏิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับบทสนทนาประเด็นไต้หวันกับคิชิดะ
แม้จะมีความขัดแย้งทางการทูต แต่จีนก็ถือเป็นพันธมิตรรายสำคัญของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้รัฐบาลญี่ปุ่นจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี
คิชิดะแสดงความหวังว่าเพโลซีจะยังคงใช้บทบาทความเป็นผู้นำของเธอมาส่งเสริมการเป็นพันธมิตรในระดับทวิภาคี รวมถึงผลักดันให้อินโด-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เสรีและเปิดกว้าง นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความท้าทายอื่นๆ เช่น ประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และการที่รัสเซียส่งทหารเข้าบุกโจมตียูเครน รวมถึงความพยายามในการบรรลุเป้าหมายโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มขึ้น
แฟ้มภาพ: STR / JAPAN POOL / JIJI PRESS / AFP
อ้างอิง: