วานนี้ (23 กรกฎาคม) กระทรวงกลาโหมของยูเครนได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันแจ้งพิกัดที่อยู่ของกองทหารรัสเซียที่แน่ชัด รวมถึงแจ้งเบาะแสของชาวยูเครนที่แอบลักลอบให้ความร่วมมือกับรัสเซีย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแอแนร์ฮอดาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสำคัญของประเทศ
แถลงการณ์ระบุว่า “โปรดแจ้งตำแหน่งของกองกำลังรัสเซีย ที่อยู่อาศัยของพวกเขา และที่อยู่อาศัยของผู้บังคับบัญชา… ท่านสามารถแจ้งเบาะแสของชาวเมืองในท้องถิ่นที่เข้าร่วมกับศัตรู ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของพวกเขา ตลอดจนข้อมูลของผู้ที่แสดงความเห็นอกเห็นใจศัตรูที่ยึดครองเมืองของเรา
“ร่วมกันขับไล่ผู้ยึดครองออกจากบ้านเกิดของเรา!” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเสริมว่าประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งรายละเอียด หรือส่งข้อมูลให้ภาครัฐผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp หรือ Signal ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่รัสเซียสามารถยึดครองเมืองแอแนร์ฮอดาร์ได้สำเร็จในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีรายงานจากสื่อต่างประเทศอยู่หลายครั้งว่า ชาวยูเครนที่สมคบคิดกับรัสเซียมักเจอกับอุบัติเหตุรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยในเดือนพฤษภาคมมีรายงานว่านายกเทศมนตรีเมืองแอแนร์ฮอดาร์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ซึ่งรัสเซียกล่าวว่าเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ถัดมาในเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียรายหนึ่งในแคว้นเคอร์ซอนก็เสียชีวิตในเหตุระเบิด และล่าสุดคือกรณีของหัวหน้าหน่วยทัณฑสถานในแคว้นเคอร์ซอนที่เจอกับเหตุระเบิดใกล้กับรถของเขา
ในช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามนั้น แอแนร์ฮอดาร์เคยมีประชากรกว่า 50,000 คน โดยประชาชนจำนวนมากได้ทำงานที่โรงไฟฟ้า 2 แห่งใกล้กับเมืองแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
แฟ้มภาพ: Narciso Contreras/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: