นับตั้งแต่มี ‘คุชชัน’ (Cushion) เกิดขึ้นครั้งแรกบนโลกเมื่อ 10 ปีก่อน นิยามการแต่งหน้าของสาวๆ ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ทุกวันนี้เพียงแค่มีคุชชันหนึ่งตลับก็สามารถช่วยกู้หน้าสดให้เปลี่ยนมาเป็นใบหน้าเนียนฉ่ำเป็นธรรมชาติในเวลาไม่กี่นาที อะไรทำให้คุชชันมาแรงจนสามารถครองตลาดเอเชียขนาดนี้ และทะยานสู่ตลาดโลกได้อย่างไม่กลัวใคร THE STANDARD จะพาไปไขความลับนี้ พร้อมแนะนำสุดยอดคุชชันขั้นเทพที่แนะว่าต้องมีไว้ติดกระเป๋าหรือโต๊ะเครื่องแป้ง
คุชชันตลับแรกของโลกเกิดขึ้นที่เกาหลี
แม้หลายคนจะพอรู้มาบ้างว่าคุชชันเป็นนวัตกรรมด้านความงามที่มาจากประเทศเกาหลี แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแล้วเจ้าคุชชันตลับแรกของเกาหลีเป็นคุชชันจากแบรนด์อะไร และใครเป็นบริษัทผู้ผลิต
บริษัทผู้ผลิตและคิดค้นคุชชันครั้งแรกของโลก คือบริษัท AmorePacific ที่มีอายุการก่อตั้งบริษัทผลิตภัณฑ์ความงามมาตั้งแต่ปี 1932 AmorePacific เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีชื่อดังมากมาย มีการขยายตลาดไปสู่ตลาดเอเชียและอเมริกาอย่างต่อเนื่อง คุชชันแบรนด์แรกที่มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกในปี 2008 คือ IOPE Air Cushion ซึ่งแบรนด์ IOPE นับว่าเป็นแบรนด์แรกที่เบิกทางให้แบรนด์อื่นๆ ในบริษัทเดียวกัน รวมถึงบริษัทอื่นในธุรกิจความงามต่างผลิตคุชชันอันเป็นสูตรเฉพาะของตัวเองออกมาอีกมากมาย จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อนที่ AmorePacific เปิดประตูนวัตกรรมและพาทุกคนข้ามไปสู่วิถีความงามแบบใหม่ ตั้งแต่นั้นสาวๆ ทั่วโลกก็ไม่เคยปล่อยให้คุชชันห่างจากโต๊ะเครื่องแป้งเลยทีเดียว
คุชชันคืออะไร
‘คุชชัน’ ก็คือรองพื้นประเภทหนึ่งซึ่งอยู่ในรูปแบบของตลับ โดยเนื้อรองพื้นจะเป็นแบบน้ำ บรรจุอยู่ในตลับที่มีการออกแบบมาสำหรับเก็บคุชชันโดยเฉพาะ ภายในตลับจะมีฟองน้ำทำหน้าที่เก็บกักเนื้อรองพื้นเอาไว้ไม่ให้เลอะซึมออกมา โครงสร้างฟองน้ำและตาข่ายต่างๆ แต่ละแบรนด์มีการผลิตออกมาไม่เหมือนกัน และจะมีพัฟฟ์ที่ใช้กับคุชชันโดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าแรกที่ผลิตพัฟฟ์คุชชันออกมาและไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ก็มาจากบริษัท AmorePacific เจ้าเดียวกับที่ผลิตคุชชันตลับแรกนั่นเอง
We Say: ปัจจุบันมีการต่อยอดสร้างนวัตกรรมความงามรูปแบบใหม่ๆ มาจากคุชชันที่เป็นรองพื้นให้สนุกและใช้งานได้หลากหลายขึ้น เช่น มีคุชชันสำหรับเขียนคิ้วจากแบรนด์ Laneige ที่ทำออกมาเจ้าแรกๆ และคุชชันที่เป็นไฮไลเตอร์ ใช้แต่งผิวหน้าให้ดูเป็นประกายฉ่ำๆ ที่เห็นได้จากเทคนิคแต่งหน้าของสาวเกาหลี
คุชชันใช้งานอย่างไร
การใช้งานคุชชันนั้นง่ายและสะดวก หลังจากเตรียมผิวด้วยสกินแคร์ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ใช้พัฟฟ์ที่มาพร้อมกับตลับคุชชันกดลงไปเบาๆ บนฟองน้ำที่หุ้มเนื้อรองพื้นอยู่ จากนั้นใช้พัฟฟ์ตบเบาๆ เหมือนเวลาใช้แป้งทูเวย์ เทคนิคที่ทำให้เนื้อรองพื้นเนียนสวยสม่ำเสมอกันคือไม่ลงน้ำหนักมือแรงๆ แต่กดเบาๆ และควบคุมจังหวะให้สม่ำเสมอ จะได้ผลลัพธ์ของการลงคุชชันที่สร้างงานผิวสวยธรรมชาติได้ในเวลาอันรวดเร็ว หลายๆ แบรนด์มีการเพิ่มส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวลงไปในคุชชัน เช่น สารควบคุมความมัน สารกันแดดเพื่อการปกป้องรังสี UV มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงสารสกัดจากพืชพรรณต่างๆ
แนวโน้มของเทรนด์คุชชันในอนาคต
จางฮาจิน นักวิจัยคุชชันชาวเกาหลี เปิดเผยว่า “มีการพัฒนาสูตรเพื่อให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างของสีผิว สภาพผิว และคำนึงถึงสภาพภูมิประเทศมากขึ้น” นั่นหมายความว่าความแรงของคุชชันจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราต้องจับตาดูคอลเล็กชันใหม่ๆ ของคุชชันที่หลายๆ แบรนด์จะใส่ทีเด็ดออกมาแข่งกันอย่างสนุก
We Say: เนื่องจากกระแสของคุชชันในตลาดเอเชียไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความนิยมลงเลย ตรงกันข้าม คุชชันกลับกลายเป็นไอเท็มที่ผู้หญิงใช้แต่งหน้ามากกว่ารองพื้นแบบเดิมๆ เสียอีก เห็นได้จากแบรนด์ดังๆ อย่าง YSL, Dior, Sephora, Chanel, Nars, Urban Decay, Lancôme, Clinique, Make Up For Ever, Bobbi Brown, M.A.C ที่หันมาผลิตคุชชันเพื่อจะแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกับเขาบ้าง ดังนั้นการที่แบรนด์ฝั่งยุโรปมองเห็นทิศทางที่ดีของคุชชัน อาจเป็นเพราะมองเห็นจุดอ่อนว่าคุชชันจากตลาด K-Beauty ที่เริ่มแผ่เข้ามาในตลาด เช่น ในอเมริกาที่คุชชันยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีผิวสีเข้มมากพอ คุชชันของแบรนด์เกาหลีส่วนใหญ่ยังมีเฉดสีที่ไม่ครอบคลุมเพียงพอ เพราะคุชชันในยุคแรกๆ มีเพียง 1-2 เฉดสีให้เลือกเท่านั้น ทั้งที่มีตัวเลขผลสำรวจเรื่องกำลังซื้อเครื่องสำอางของสาวผิวสีว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้นในทุกๆ ปี
ผู้หญิงผิวดำจ่ายเงิน 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐไปกับผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งมากกว่ายอดขายเครื่องดื่มอื่นๆ ถึง 80% เช่นเดียวกับ ชาร์ลอตต์ โช ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Soko Glam ที่มีสินค้า K-Beauty จำหน่ายในเว็บไซต์ครอบคลุมมากที่สุดก็บอกว่า “ในโลกตะวันตก 60-70% ของผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามของเกาหลี ไม่ใช่คนเอเชีย” จึงน่าสนใจว่าแม้แบรนด์ใหญ่ๆ จากฝั่งยุโรปจะเริ่มต้นผลิตคุชชันตามหลังแบรนด์ดังๆ ของเกาหลี แต่หากมีการพัฒนาและสร้างจุดแข็งเพื่อเอาใจผู้บริโภคผิวสีมากขึ้น ไม่แน่ว่าปี 2018 นี้เราจะได้เห็นเทรนด์คุชชันที่บูมและหลากหลายไปด้วยเฉดสีที่มากมายกว่าเดิม
ส่วนใครยังไม่เคยลองใช้เจ้าคุชชันที่ว่า เรารวบรวมคุชชันขั้นเทพที่ทำออกมาได้น่าประทับใจจนต้องบอกต่อ
Sulwhasoo Perfecting Cushion EX (2,100 บาท) เพิ่งเปิดตัวในไทยไปไม่ถึงเดือน เป็นสูตรที่มีสารบำรุงเดียวกับที่อยู่ในเซรั่มเบสต์เซลเลอร์อย่าง First Care Activating Serum EX เวลาใช้คุชชันก็จะหอมๆ ฟินๆ
M.A.C Lightful C+ Coral Grass SPF50 PA++++ Quick Finish Cushion Compact (1,750 บาท) คุชชันผสมรองพื้นเนื้อละเอียด เป็นสูตรที่รวมเอาอะมิโนแอซิด วิตามินซี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ใช้แต่งผิวให้สวยงามได้ทุกวัน
Urban Decay Naked Skin Glow Cushion (รีฟีล 1,200 บาท) คุชชันตลับนี้ให้ผลลัพธ์เนื้อแมตต์ เหมาะกับใครที่มีปัญหาผิวหน้ามัน แต่อยากได้ผิวที่ฉ่ำนิดๆ ดูโกลวหน่อยๆ แถมยังปกปิดเริ่ดได้ทุกระดับ ติดทน 18 ชั่วโมง
Sephora Collection Wonderful Cushion Foundation (890 บาท) หนึ่งในคุชชันที่เข้ากับผิวของสาวไทยมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง คุณภาพดีงาม เนื้อเนียนนุ่ม ทาง่าย แค่ตบเบาๆ ก็ได้ผิวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
Innisfree Skinny Coverfit Cushion (รีฟีล 490 บาท คุชชันเคส 290 บาท)
รองพื้นเนื้อคุชชันที่มอบการปกปิดดีเยี่ยม ติดทนนาน เหมาะกับอากาศบ้านเรา และมีสีให้เลือกเยอะขึ้นกว่าเดิมแล้ว แถมยังอยู่ในช่วงที่มีเคสคุชชันลาย Snoopy เป็นลิมิเต็ดเอดิชันให้เลือกช้อปคู่กัน
อ้างอิง: