×

ฉันจะต้องเก่งขึ้น! พักผ่อนหย่อนใจไม่ได้สักนาทีเดียว รู้จัก Toxic Productivity ความรู้สึกที่อาจกำลังทำร้ายเราอยู่

14.07.2022
  • LOADING...
Toxic Productivity

Toxic Productivity งานหลวงก็ยุ่งเหลือเกิน งานราษฎร์ก็ต้องทำ คอร์สภาษาอังกฤษก็ต้องเรียนให้จบ ยังจะมีหนังสือพัฒนาตัวเองอีกเป็นตั้งที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่าน คนอื่นเขาไปไหนกันไกลแล้ว เราต้องเก่งให้เท่าเขาให้ได้ 

 

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าชีวิตยุ่งเหยิงกับการ ‘จะต้องเก่งให้ได้’ หรือ ‘ความโปรดักทีฟ’ คุณอาจกำลังเจอกับความ Toxic Productivity อยู่นะ

 

คนที่ตกอยู่ในภาวะ Toxic Productivity จะรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ และเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนที่เก่งขึ้นกว่านี้ได้ ทำให้มากขึ้นกว่านี้ได้ และถ้าพวกเขาทำไม่ได้ ก็จะจมอยู่ในห้วงความรู้สึกผิดกับตัวเอง 

 

มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การเป็นคนโปรดักทีฟที่พยายามจะทำทุกอย่างจนไม่มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจให้ตัวเองนั้น จะลดประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ของเราลงอย่างมาก นอกจากนี้ยังทำให้ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวห่างเหินยิ่งขึ้น และยังทำให้เราไม่สามารถสร้างมิตรภาพในที่ทำงานได้อีกด้วย

 

การเป็นคนโปรดักทีฟนั้นดี แต่ถ้ามากไปก็สามารถทำลายสุขภาพ ความสัมพันธ์ และชีวิตได้เลย ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานที่ทำงาน หรือกลับมาที่บ้านก็ยังเทกคอร์สความรู้เพิ่มเติม ผลลัพธ์มักจะออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด 

 

และเมื่อคุณทำต่อไปอย่างยาวนาน คุณจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าและเบิร์นเอาต์ได้ บางครั้งแย่กว่านั้นคือ คุณจะรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำได้มากกว่านี้ หรือทำได้ดีกว่านี้

 

วัฒนธรรมองค์กรหลายที่มักให้ค่า ‘ความโปรดักทีฟ’ มากจนผู้คนเริ่มรู้สึกตึงเครียดเมื่อตัวเองมีเวลาว่าง หรือไม่ได้ทำอะไรเพื่อพัฒนาตัวเอง ซึ่งโดยทั่วไป ผู้นำมักจะแสดงให้พนักงานเห็นว่าเขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาได้ด้วยความโปรดักทีฟและการพัฒนาตนเอง จนเกิดเป็นวัฒนธรรมการแข่งขันในหมู่พนักงานที่ต้องแข่งกันโดดเด่น แข่งกันกระตือรือร้น เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน

 

ในที่ทำงาน เหล่าผู้นำต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาประสบความสำเร็จ ซึ่งโดยปกติแล้วจะถือว่ามีประสิทธิผล นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมการแข่งขันในหมู่พนักงานรุ่นเยาว์ที่ต้องการโดดเด่นในฐานะคนทำงานที่กระตือรือร้นและขยันขันแข็ง เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ด้วยเหตุนี้ วัฒนธรรมองค์กรได้ผลิตพนักงานที่ต้องทนทุกข์กับความ Toxic Productivity ขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว

 

ยิ่งไปกว่านั้น การระบาดของโควิด ทำให้ผู้คนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ และนั่นทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามันเป็นการยากที่จะเอาตัวเองออกมาจากอีเมล ข้อความ หรืองาน ทุกคนรู้สึกเหมือนว่าจะต้องทำงานตลอดเวลา ตอบข้อความของหัวหน้างานตัวเวลา 

 

เหล่านี้ยิ่งทำให้ความ Toxic Productivity ทวีความเลวร้าย เพราะถึงแม้การทำงานที่บ้านจะทำให้พนักงานมีเวลาว่างมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางไป-กลับ แต่พวกเขาต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้หัวหน้างานเห็นถึงแม้พวกเขาจะอยู่ที่บ้าน แต่พวกเขาก็กำลังทำงานอยู่ ไม่ได้แอบอู้งานแต่อย่างใด

 

ดังนั้น การเป็นคนโปรดักทีฟโดยไม่ทำร้ายตัวเอง คือต้องแน่ใจว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่คุณเลือกทำจากใจของคุณจริงๆ และเมื่อคุณทำสำเร็จ มันจะส่งผลดีกับตัวคุณ และส่งคุณไปให้ถึงเป้าหมายได้

 

และอย่าลืมว่า การวางมือจากทุกสิ่งเพื่อพักผ่อน เดินชมธรรมชาติ นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก หรือใช้เวลาร่วมกับครอบครัวนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ กิจกรรมหย่อนใจเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้พักสมอง ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มความโปรดักทีฟให้คุณมากขึ้น เมื่อคุณพร้อมที่จะกลับมาโปรดักทีฟอีกครั้ง

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising