ตลาดหุ้นเอเชียกอดคอกันร่วง ดัชนี Hang Seng นำทีม ลดลง 3% รับข่าว 2 บิ๊กเทคถูกปรับฐานละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ขณะที่หุ้นจีนร่วงราว 2% เหตุความกังวลโควิดระบาด กลับมากดดันตลาดอีกครั้ง
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงร่วงลงราว 3% หลังจากมีข่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้สั่งปรับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent และ Alibaba ซึ่งกดดันหุ้น Alibaba และ Tencent ปรับลดลง 6.45% และ 3.18% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกงปรับลดลง 4.16%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า บริษัทจีนหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent ถูกปรับโดยหน่วยงานกำกับดูแล โทษฐานไม่ปฏิบัติตามกฎการต่อต้านการผูกขาดในการเปิดเผยธุรกรรม
นอกจากนี้ หุ้นคาสิโนในฮ่องกงร่วงลง หลังจากมีข่าวว่าธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมดในมาเก๊าจะปิดดำเนินการเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของโควิด
โดยหุ้นของ Wynn Macau ในฮ่องกงลดลง 6.68%, Sands China ลดลง 7.61% และ Melco International Development ลดลง 7.13%
ทางด้านตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ดัชนี Shanghai Composite ปรับลดลง 1.45% ในขณะที่ Shenzhen Component ปรับลดลง 2.4% และดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงกับบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นจีน ปรับลงลง 1.98%
รายงานข่าวระบุว่า ความกังวลเรื่องโควิดในจีนมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีรายงานข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอน BA.4-BA.5 ในนครเซี่ยงไฮ้
ขณะที่ปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อยังต้องจับตามอง โดยล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 กรกฎาคม) จีนได้รายงานอัตราเงินเฟ้อภาคผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 6.1% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าอัตราที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 6% อย่างไรก็ตาม เป็นตัวเลขที่ลดลงเมื่อเทียบกับระดับ 6.4% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ส่วนอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.4% ในการสำรวจของ Reuters เล็กน้อย
ด้านตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย-แปซิฟิก ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.17% ในขณะที่ดัชนี TOPIX เพิ่มขึ้น 1.43% โดยดัชนีได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายในเป็นหลัก โดยล่าสุดรัฐบาลผสมของญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มเสียงข้างมากในสภาสูงของรัฐสภาของประเทศ ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมุ่งหน้าไปยังการเลือกตั้งในช่วง 2 วัน หลังการลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ
ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ลดลง 0.97% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ดัชนี KOSPI ล่าสุดลดลง 0.18% อย่างไรก็ตาม ดัชนี KOSDAQ เพิ่มขึ้น 0.27%
ทางด้านดัชนี Asia-Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น ลดลง 1.63%
ทั้งนี้ ตลาดสิงคโปร์และมาเลเซียปิดทำการในวันจันทร์
ด้านความเคลื่อนไหวฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแรงงานเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 372,000 ราย ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนอย่างมาก เพราะตลาดคาดการณ์ตัวเลขไว้ที่ 250,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนมิถุนายนนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพฤษภาคมที่ 3.6%
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า รายงานการจ้างงานดังกล่าวช่วยลดความกลัวภาวะถดถอยได้บ้าง สอดคล้องกับบทวิจัยของ ANZ ที่ระบุว่า ขณะนี้ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังใกล้เข้ามา และในการประเมินของ ANZ ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจ ยังคงเป็นอัตราเงินเฟ้อ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะต้องมีอัตราที่เข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหานั้น
ทั้งนี้ ในปลายสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ ขณะที่จีนจะเปิดเผยข้อมูล GDP การผลิตภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลการขายปลีก รวมถึงจะเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/22 และผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2022
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP