ประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลไปยังสถานที่เกิดเหตุลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ในเมืองนารา ทางตะวันตกของประเทศ เพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ ในเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศและทั่วโลก
“ฉันตกใจที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นที่นารา” นัตสึมิ นิวะ แม่บ้านวัย 50 ปีกล่าว หลังจากที่เธอและลูกชายวัย 10 ปี วางดอกไม้แสดงความไว้อาลัยใกล้จุดเกิดเหตุที่สถานีรถไฟใจกลางเมือง
นิวะเปิดเผยด้วยว่า อาเบะซึ่งเป็นบุรุษผู้รักชาติ เป็นแรงบันดาลใจให้เธอตั้งชื่อของลูกชายของเธอว่า มาซาคุนิ โดย ‘คุนิ’ หมายถึงชาติในภาษาญี่ปุ่น
ตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์จนถึงช่วงเช้าวันเสาร์นี้ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงเดินทางไปวางดอกไม้ และสวดมนต์ให้กับอดีตผู้นำของพวกเขากันอย่างไม่ขาดสาย
“ฉันนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ฉันต้องออกมา” ซาชิเอะ นางาฟูจิ ชาวเมืองนารา วัย 54 ปี เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุพร้อมกับลูกชายกล่าว
ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ขบวนรถได้เคลื่อนย้ายศพอาเบะออกจากโรงพยาบาลในเมืองนาราเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ เพื่อไปยังบ้านพักของเขาในโตเกียว
อาเบะถูกลอบยิงในระหว่างการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงให้กับผู้สมัครพรรคเสรีประชาธิปไตย แม้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นเมื่อวาน แต่วันนี้การหาเสียงซึ่งเป็นวันสุดท้ายก็ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า พรรคร่วมรัฐบาลซึ่งนำโดนนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งถูกมองว่าเป็นทายาทการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ จะคว้าชัยในการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้
เจมส์ เบรดี รองประธานบริษัทที่ปรึกษา Teneo วิเคราะห์ว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยจะได้คะแนนสงสารเพิ่ม
“คลื่นความเห็นอกเห็นใจจะช่วยเพิ่มคะแนน” ให้กับพรรค ทั้งนี้ พรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งอาเบะยังคงมีอิทธิพลอยู่มากนั้น ได้รับการคาดหมายตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุลอบสังหารแล้วว่า จะได้ที่นั่งมากกว่าในการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้
นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้สนทนากับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในวันเสาร์ ซึ่งไบเดนแสดงความเสียใจและยกย่องความเป็นผู้นำของอาเบะ
อาเบะมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งกลุ่ม Quad ที่มุ่งต่อต้านอิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สมาชิกชาติอื่นๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และออสเตรเลีย ต่างแสดงความตกตะลึงต่อเหตุการณ์ลอบสังหารในแถลงการณ์ร่วม
“เราจะยกย่องความทรงจำของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ด้วยการทำงานเพิ่มเป็นสองเท่า เพื่อนำพาภูมิภาคสู่สันติสุขและเจริญรุ่งเรือง” แถลงการณ์ร่วมระบุ
อ้างอิง: