×

‘มาม่า’ แก้เกมขึ้นราคาไม่ได้ ออกสูตรลดโซเดียม ขาย ‘8 บาท’ เริ่ม ส.ค. นี้ พร้อมส่งโมเดลใหม่ MAMA Shop เจาะปั๊มน้ำมัน เริ่มปี 2566

02.07.2022
  • LOADING...
มาม่า

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ‘มาม่า’ เป็นแบรนด์เรือธงของสหพัฒน์ ปีนี้ครบรอบ 50 ปี หากย้อนกลับไปในปี 2516 วันแรกที่มาม่าออกรสซุปไก่ ตามด้วยรสโปรตีนไข่ รสหมูสับ และรสต้มยำกุ้ง ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างมาก หลังจากนั้นปี 2547 ได้เปิดตัวแบรนด์ Oriental Kitchen พร้อมกับรีแบรนด์เป็น มาม่า OK เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคตั้งแต่กลุ่มแมสไปจนถึงพรีเมียม ทำให้มีอัตราการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง 

 

เวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ‘มาม่า’ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ที่ผ่านมา มาม่าได้พัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอยู่เป็นระยะ โดยให้ความสำคัญด้านรสชาติและโภชนาการ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการบริโภค

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

ล่าสุดเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘มาม่า สูตร Less Sodium’ ทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำกุ้ง ลดโซเดียมลง 43%, รสหมูสับ ลดโซเดียมลง 32%, รสต้มยำกุ้งน้ำข้น ลดโซเดียมลง 38% และเส้นหมี่น้ำใส ลดโซเดียมลง 38% ทุกรสชาติขนาด 55-60 กรัม ขายในราคา 8 บาทต่อซอง 

 

ทั้งนี้ การเปิดตัวสินค้าใหม่ หลักๆ มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และจากข้อมูลปัจจุบันคนไทยบริโภคมาม่า 52 ซองต่อคนต่อปี และบริโภคโซเดียมลดลง 12% เชื่อว่าสินค้าดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค

 

โดยมาม่าสูตร Less Sodium ผลิตด้วยต้นทุนใหม่ ซึ่งเป็นสินค้าตัวใหม่ที่ได้แจ้งโครงสร้างต้นทุนและราคาให้กับกรมการค้าภายใน กระทรวงพานิชย์ ตามขั้นตอน และได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มวางจำหน่ายต้นเดือนสิงหาคมนี้ในช่องทางโมเดิร์นเทรด 

 

ขณะที่สินค้า ‘มาม่า ซอง 6 บาท’ ซึ่งเป็นสินค้าขายดีที่สร้างยอดขายกว่า 80% และเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะแป้งสาลี น้ำมันปาล์ม และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนกว่า 50-70% 

 

ก่อนหน้านี้ มาม่าได้ยื่นแจงต้นทุนให้กระทรวงพานิชย์เรียบร้อยแล้ว คาดว่าอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา ส่วนรายละเอียดนั้น มาม่าได้ขอปรับขึ้น 1 บาทต่อซอง เป็น 7 บาทต่อซอง ต้องยอมรับว่าแม้มาม่าจะขึ้นราคาเป็น 8 บาทต่อซอง กำไรก็ยังน้อย ซึ่งหากรอไปนานกว่านี้ สินค้าราคา 6 บาท เริ่มจะขาดทุนแล้ว และหากได้รับอนุมัติให้ขึ้นราคา จะเป็นการปรับขึ้นในรอบ 14 ปี แม้ระยะแรกผู้บริโภคอาจกังวลบ้าง แต่เชื่อว่าผู้บริโภคจะเข้าใจผู้ประกอบการ

 

สำหรับทิศทางครึ่งปีหลัง มาม่าเตรียมออกสินค้ากลุ่มพรีเมียมอีกหลายรายการ ควบคู่กับหันมาโฟกัสการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล สื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนให้เข้าถึงชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่มากขึ้น ล่าสุดได้จับมือกับ Bitkub เปิดตัวการ์ด NFT คอลเล็กชันครบรอบ 50 ปี

 

นอกจากนี้ มาม่าได้เพิ่มน้ำหนักตลาดส่งออก เนื่องจากต่างชาตินิยมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น จึงเพิ่มกำลังการผลิตส่งออกเพิ่มอีก 30% จากเดิมผลิตเพียง 20% โดยมาม่ามีโรงงานอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เมียนมา, กัมพูชา, บังกลาเทศ และฮังการี ส่งออกไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก 

 

ปัจจุบันภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ในครึ่งปีแรกเติบโต 7% ซึ่งประเมินว่าครึ่งปีหลังจะโต 3.5% โดยมาม่าครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 และการเติบโต 7% ขณะที่บะหมี่กลุ่มพรีเมียมเติบโตกว่า 15% อย่างไรก็ตาม มาม่าไม่ได้เป็นตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจได้แบบเดิมแล้ว ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมา ตลอดจนสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

 

ขณะเดียวกัน ‘มาม่า’ ได้เตรียมพัฒนาโมเดล MAMA Shop ต่อยอดหลังจากที่โชว์ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในบูธเปิดให้ทดลองชิมเมนูมาม่า 3 รสชาติ ได้แก่ มาม่าหมูสับ ลูกชิ้นปั้นสดบุญชูโภชนา, มาม่าเย็นตาโฟทะเล กุ้งสด ลูกชิ้นปลา และมาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้น กุ้งสด ปลาหมึก เริ่มต้นชามละ 100-120 บาท 

 

พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาม่าอยู่ระหว่างวางแผนขยายโมเดล MAMA Shop ในรูปแบบร้านอาหารนั่งกิน 20-30 ที่นั่ง โดยจะเริ่มต้นจากสาขาทดลองเปิดในสถานีบริการน้ำมันและสวนสนุกต่างๆ ในกรุงเทพฯ ระยะแรกจะเป็นการลงทุนเอง หากได้รับการตอบรับดี สเต็ปถัดไปอาจขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ต้องใช้งบลงทุนไม่สูงมากจนเกินไป

 

ส่วนเมนูที่วางขายในร้านจะเป็นรสชาติมาม่าที่ขายดี นำมาสร้างสรรค์ร่วมกับพันธมิตรที่มีจุดเด่นเป็นวัตถุดิบที่หลากหลาย รสชาติอร่อย และต้องกำหนดราคาให้สอดคล้องกับสภาพตลาด และต้องไม่สูงกว่าร้านอาหารที่อยู่ในทำเลเดียวกัน ซึ่งโมเดลดังกล่าวไม่ได้หวังในแง่ของยอดขายเป็นหลัก แต่เป็นการสร้าง Brand Awareness มากกว่า โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดสาขาแรกในปี 2566 เป็นต้นไป 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X