ค่ำวานนี้ (1 กรกฎาคม) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จัดงานเลี้ยงฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาครบ 246 ปี โดยมีผู้แทนจากรัฐบาลไทย, คณะผู้แทนทางการทูตประเทศต่างๆ, ผู้นำภาคธุรกิจ, ภาคประชาสังคม, สื่อมวลชน, นักวิชาการ และภาคส่วนอื่นๆ เข้าร่วมงาน
ในจำนวนนี้มีบุคคลที่เป็นที่รู้จัก เช่น จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี, ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก, สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร, อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
นอกจากนี้ยังมีคณะผู้แทนทางการทูต เช่น โอเล็กซานดร์ ลีซัก อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย และ สุจิตรา ทุไร เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จัดส่งดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีแทน
ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง โดยระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไทย ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน
“ประเทศของเราทั้งสองมีพันธไมตรีอันยาวนานมากว่า 200 ปี ในปี 2361 กัปตันเรือชาวอเมริกันคนหนึ่งได้นำเรือเข้าเทียบท่าที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก และ 15 ปีต่อมา สหรัฐฯ และราชอาณาจักรสยามก็ได้ลงนามในสนธิสัญญาระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในภูมิภาคเอเชียเป็นครั้งแรก สนธิสัญญาที่ได้ก่อให้เกิด ‘สันติภาพเป็นนิจและมิตรภาพที่เป็นนิรันดร’ ระหว่างเราสองชาติ และมิตรภาพนั้นก็ยังคงดำรงอยู่สืบมาจนถึงทุกวันนี้” เขาระบุ
อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ยังกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในปัจจุบัน เช่น ความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด, การสร้างกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity) ร่วมกัน และความร่วมมือด้านความมั่นคง นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในโอกาสที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปีนี้ และรอคอยที่จะได้ต่อยอดความสำเร็จของไทยเมื่อสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพในปีหน้า
จากนั้น จึงเป็นการเชิญผู้ร่วมงานดื่มเพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออวยพรให้กับประชาชนชาวไทย ตลอดจนเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีและประชาชนชาวอเมริกัน
ฮีธได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยตอบคำถามว่า ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีผลต่อความร่วมมือกับไทยในแง่ใดหรือไม่ โดยฮีธระบุว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาตินั้นเข้มแข็งและกว้างขวางมาก และจะเข้มแข็งยิ่งขึ้นในอนาคต ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เขายังระบุว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ และในการเดินทางดังกล่าว เขาได้มีโอกาสพบกับสมาชิกสภาคองเกรสหลายคน ซึ่งไม่ว่าจะจากพรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกันต่างก็มีความรู้สึกที่ดีอย่างมาก และมีความปรารถนาดีต่อไทยในสังคมอเมริกันในวงกว้าง ดังนั้น เขาคิดว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ภาพที่มองเห็นก็เป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกสำหรับอนาคต