ผู้ประท้วงหลายร้อยคนมารวมตัวกันที่หน้าศาลฎีกาสหรัฐฯ วานนี้ (26 มิถุนายน) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อประณามการตัดสินใจของผู้พิพากษาที่ล้มล้างคำตัดสินคดี Roe v. Wade ที่รับรองสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้หญิงในการทำแท้ง ซึ่งมีอายุมาราวครึ่งศตวรรษ ทำให้อาจกล่าวได้ว่าสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้หญิงในการทำแท้งไม่ถูกรับรองอีกต่อไป
คำตัดสินของศาลซึ่งมีผู้พิพากษาส่วนใหญ่ 6 จาก 9 ราย เป็นผู้พิพากษาที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม ถูกกำหนดให้เปลี่ยนแปลงชีวิตชาวอเมริกัน โดยเกือบครึ่งหนึ่งของรัฐทั้งหมดนั้นแน่นอนแล้ว หรือมีแนวโน้มที่จะห้ามการทำแท้ง
คลาเรนซ์ โธมัส ผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมระบุว่า การให้เหตุผลของศาลอาจนำไปสู่การพิจารณาคำตัดสินที่ผ่านมาใหม่ในกรณีการปกป้องสิทธิ์ในการคุมกำเนิด การทำให้การแต่งงานของคนเพศกำเนิดเดียวกันเป็นไปอย่างถูกกฎหมายทั่วประเทศ และการทำให้กฎหมายของรัฐที่ห้ามการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเป็นโมฆะ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนผู้ประท้วงนอกศาลฎีกาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก พื้นที่ที่ล้อมรั้วไว้หน้าศาลฎีกาส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผู้เรียกร้องสิทธิในการทำแท้ง ผู้คนถือโปสเตอร์พร้อมสโลแกนต่างๆ เช่น ‘Abort SCOTUS (ทำแท้งศาลฎีกา)’ ส่วนผู้ประท้วงอีกคนหนึ่งถือป้ายที่เขียนว่า ‘limit guns, not women (จำกัดอาวุธปืน ไม่ใช่ผู้หญิง)’ ซึ่งเชื่อมโยงกับคำตัดสินอีกชิ้นหนึ่งของศาลฎีกาในสัปดาห์นี้ว่าด้วยการขยายสิทธิเกี่ยวกับอาวุธปืน
ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายวันเสาร์ ผู้สนับสนุนคำตัดสินของศาลที่ออกมาเมื่อวันศุกร์รายหนึ่งกล่าวว่า “สิ่งที่ผู้สนับสนุน ‘my body, my choice’ ไม่เข้าใจก็คือ ทารกที่ถูกทำแท้งไม่เคยมีทางเลือก”
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งกับคำตัดสินของศาลเมื่อวันศุกร์ ระบุวานนี้ว่า ทำเนียบขาวจะเฝ้าติดตามวิธีที่รัฐต่างๆ บังคับใช้คำสั่งแบน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารได้ส่งสัญญาณไปแล้วว่าพวกเขาวางแผนที่จะต่อสู้กับความพยายามที่จะสั่งห้ามยาที่ใช้ทำแท้ง
“การตัดสินใจนั้นถูกดำเนินการโดยรัฐต่างๆ” ไบเดนกล่าว “ฝ่ายบริหารของผมจะเน้นที่ว่าพวกเขาบริหารจัดการอย่างไร และพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมายอื่นหรือไม่”
ทำเนียบขาวกล่าวว่า จะขัดขวางความพยายามของรัฐต่างๆ ในการจำกัดความสามารถของสตรีที่จะเดินทางออกจากรัฐบ้านเกิดเพื่อแสวงหาการทำแท้งด้วย
ในฝั่งการชุมนุมที่ทางตะวันตกของรัฐอิลลินอยส์เมื่อวันเสาร์ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องคำตัดสินของศาลฎีกา โดยเรียกว่าเป็น ‘ชัยชนะของรัฐธรรมนูญ ชัยชนะสำหรับหลักนิติธรรม และเหนือสิ่งอื่นใดคือชัยชนะสำหรับชีวิต’ โดยเขาเตือนความจำผู้ฟังว่า ในปี 2016 เขาได้ตั้งแคมเปญที่ให้คำมั่นว่าจะเสนอชื่อผู้พิพากษา ‘ผู้ซึ่งจะยืนหยัดเพื่อความหมายดั้งเดิมของรัฐธรรมนูญ’
ในขณะเดียวกัน อันเดรีย ตอร์นิเอลลี เจ้าหน้าที่ของวาติกัน ก็เขียนในบทความว่านักเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งควรกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามอื่นๆ ต่อชีวิตเช่นกัน เช่น การเข้าถึงปืนได้ง่าย ความยากจน และอัตราการเสียชีวิตของมารดาที่เพิ่มสูงขึ้น
Reuters ระบุว่า สำหรับกลุ่มอนุรักษนิยมคริสเตียนที่ต่อสู้เพื่อล้มล้างคำตัดสินคดี Roe v. Wade มานาน คำตัดสินเมื่อวันศุกร์ถือเป็นชัยชนะที่น่ายกย่อง และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ให้มีการแต่งตั้งผู้พิพากษาที่ต่อต้านการทำแท้งสู่ศาลฎีกามาเป็นเวลานาน ซึ่งคำตัดสินที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ได้รับการสนับสนุนจากผู้พิพากษาทั้งสามคนที่ถูกแต่งตั้งมาโดยทรัมป์ และขัดแย้งกับความคิดเห็นของประชาชนในวงกว้าง โดย Reuters อ้างอิงผลสำรวจ (โพล) ของ Reuters/Ipsos เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าประมาณ 71% ของชาวอเมริกัน ซึ่งรวมถึงผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่วนใหญ่ระบุว่า การตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ควรเป็นของผู้หญิงและแพทย์ของเธอ แทนที่จะเป็นการถูกกำกับโดยรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เสียงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนให้มีข้อจำกัดในการทำแท้งอยู่ในบางกรณี
คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังเสียงข้างมากสายอนุรักษนิยมของศาลฎีกาได้ออกคำตัดสินอีกชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาปกป้องสิทธิของบุคคลในการพกปืนพกในที่สาธารณะเพื่อป้องกันตัวเอง นำไปสู่การทำให้กฎหมายของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับใบอนุญาตพกพาปืนนั้นเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ ในระหว่างการพูดคุยกับนักข่าวเมื่อวันเสาร์ กลุ่มอัยการสูงสุดของรัฐที่หนุนพรรคเดโมแครตกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ใช้สำนักงานของพวกเขาเพื่อบังคับใช้คำสั่งแบนการทำแท้ง ขณะที่ Reuters รายงานว่า คลินิก Jackson Women’s Health Organization ซึ่งเป็นคลินิกทำแท้งแห่งเดียวในรัฐมิสซิสซิปปี และมีชื่ออยู่ในคดี ‘Dobbs v. Jackson Women’s Health Organization’ ที่นำมาซึ่งการล้มล้างคำพิพากษาคดีเดิมอย่าง Roe v. Wade นั้นยังคงเปิดทำการในเช้าวันเสาร์ โดยมีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการทำแท้งตั้งบันไดเพื่อจ้องมองเข้าไปเหนือรั้วของพื้นที่ดังกล่าว พร้อมชูโปสเตอร์ที่มีข้อความต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อความว่า ‘การทำแท้งคือการฆาตกรรม’ โดยมีผู้ประท้วงคนหนึ่งที่ระบุกับหญิงที่รอการนัดหมายที่คลินิกแห่งนี้ว่าพวกเธอกำลังทำผิดกฎหมาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปีจะยังไม่ทำให้คลินิกปิดไปอีกเก้าวัน
ภาพ: ROBERTO SCHMIDT / AFP
อ้างอิง: