‘ตลาดหมี’ หรือสภาวะตลาดหยุดนิ่ง / ถดถอย กำลังมาเยือนตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอีกครา หลังเคยเกิดมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งเมื่อช่วงปี 2011-2012, ช่วง 2014-2016 และช่วง 2017-2018 ซึ่งในแต่ละช่วงกินเวลาเกินกว่า 2 ปี
ราคาของ Bitcoin ในปัจจุบันลดลงกว่า 60% ในช่วงปีนี้มาอยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC และลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนประมาณ 70% ที่ราคา 69,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโต ทำให้บริษัทซื้อขายคริปโตอย่าง Coinbase จำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานกว่า 18% หรือประมาณ 1,100 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาจยังไม่ใช่จังหวะรับมีด! Bitcoin ยังอยู่ในจุดวัดใจ หลังราคาไม่สามารถดีดเหนือ 20,000 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ไกล
- เกิดอะไรขึ้นในโลกคริปโต จนราคา Bitcoin ดิ่งกว่า 30% แต่ข่าวดีคือการถล่มลงมาจะไม่ทำให้เศรษฐกิจพังไปด้วย
ไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของบริษัทได้แสดงความกังวลต่อสภาวะถดถอย พร้อมกล่าวว่า บริษัทได้เติบโต ‘เร็วเกินไป’ ในช่วง ‘ตลาดกระทิง’
“เรากำลังก้าวเข้าสู่สภาวะถดถอยหลังการเฟื่องฟูของเศรษฐกิจกว่า 10 ปี มันอาจนำไปสู่เหตุการณ์ Crypto Winter อีกครั้ง และมันจะใช้เวลานานกว่าเดิม” เขากล่าวในเมลที่ส่งถึงพนักงาน “แม้มันจะเป็นเรื่องยากในการคาดเดาทิศทางของตลาดหรือเศรษฐกิจ เราจึงต้องวางแผนสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพื่อให้เราดำเนินธุรกิจได้ในทุกสภาพแวดล้อม”
Crypto Winter คืออะไร
กว่า 3 เดือนที่ผู้คนคาดการณ์ความเป็นไปได้ของสภาวะ Crypto Winter หรือก็คือการที่ราคาเหรียญคริปโตลดฮวบและอยู่ระดับต่ำเป็นเวลานาน
Crypto Winter ครั้งล่าสุดเมื่อปลายปี 2017 ทำเอา Bitcoin ลดลงกว่า 80% จากจุดสูงสุด และใช้เวลาถึง 18 เดือนกว่าจะกลับมาที่เดิมได้
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นได้เข้าสู่สภาวะตลาดหมีอย่างเป็นทางการแล้ว โดยดัชนี S&P ลดลงกว่า 23% จากราคาช่วงต้นปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิถุนายน) ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสภาวะถดถอยของเศรษฐกิจนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเท่าไรนัก
“เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าการแกว่งตัวของ Bitcoin ณ ปัจจุบันจะส่งผลอย่างไรต่อไป” วิลเลียม ลูเธอร์ ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Florida Atlantic กล่าว
เขากล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องมองไปในระยะยาว ถ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นทรัพย์สินที่มีค่า อย่างนั้นคุณควรเชื่อว่าการใช้สิ่งเหล่านี้จะแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต และ “คุณควรมองว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลมากกว่า เพราะนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนเรียกมันว่า Crypto Winter และฤดูใบไม้ผลิมักจะสวยงามเสมอ
“ดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มว่าตลาดคริปโตในอนาคตจะไหลลื่น” เขากล่าวกับ CNBC
แล้วทำไมผู้บริหารต่างพากันกังวล
เพราะธุรกิจต่างๆ กลัวว่าจากราคาคริปโตที่ลดลง จะทำให้นักลงทุนลดการเทรดของพวกเขาลงด้วย ซึ่งนั่นเป็นวิธีเดียวที่บริษัทซื้อขายคริปโตต้องลดต้นทุนของตน เช่นการปลดพนักงาน
Coinbase เป็นอีกหนึ่งในบริษัทที่จำใจชะลอการจ้างงาน และปลดพนักงานของตนตามบริษัทอื่นๆ เช่น BlockFi และ Crypto.com
อนาคตของนักเทรด
“อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีที่ความผันผวน ณ ปัจจุบันเปลี่ยนทิศทางและกลยุทธ์ของพอร์ตคุณไม่ได้” ลูเธอร์กล่าว
นอกเหนือจากมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงของพอร์ตเพราะราคาที่ผันผวน “ไม่มีสิ่งใดใน 6 เดือนที่ผ่านมาที่ทำให้ผมต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของพอร์ต” ลูเธอร์กล่าว
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า นักลงทุนควรเหลือคริปโตไว้ในพอร์ตประมาณ 1-5% และสามารถวางเงินเย็นได้เท่าที่ต้องการ แต่สำหรับคนที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดคริปโต ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีนัก ไอวอรี จอห์นสัน ผู้ก่อตั้ง Delancey Wealth Management และนักวางแผนการเงิน กล่าวกับ CNBC
ด้าน ไทโรน รอส CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Turnqey Labs กล่าวกับ CNBC ว่า สำหรับผู้ที่ต้องการจะกระโดดเข้าสู่ตลาดในตอนนี้ ควรต้องมีความเชื่อมั่นในระยะยาว เพราะการลงทุนในคริปโตตอนนี้มีความเสี่ยงที่สูงมาก และผลตอบแทนคล้ายกับการลงทุนแบบร่วมทุน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP