หลังฟุตบอลลีกยุโรปจบฤดูกาลได้ร่วมสองสัปดาห์ และโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติที่ยืดเยื้อกำลังจะจบลง นั่นเป็นสัญญาณของการเดินหน้าในตลาดนักเตะของทั้งสโมสรและนักเตะแบบเต็มตัว
มีความเคลื่อนไหวใดที่น่าติดตามบ้างในช่วงนี้ มาลองชำเลืองมองไปพร้อมกัน
หรือ ราฮีม สเตอร์ลิง จะไปเชลซี?
หนึ่งในนักฟุตบอลระดับสตาร์ที่ถูกจับตามองในการย้ายทีมช่วงปิดฤดูกาลนี้คือ ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวรุกสารพัดประโยชน์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
สตาร์วัย 27 ปีรายนี้เคยตกเป็นข่าวการย้ายทีมมาแล้วในช่วงต้นฤดูกาล 2021/22 โดยปัญหาคือการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่ไม่มีความคืบหน้าที่น่าพอใจ บวกกับการที่เริ่มถูก เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ชาวสเปนดรอปเป็นตัวสำรองในทีม
แต่ถึงหลังจากที่มีการเคลียร์ใจจนสเตอร์ลิงกลับมาเรียกฟอร์มเก่ง และถือว่ามีส่วนในการทำให้แมนฯ ซิตี้ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกสมัย ก็ไม่ได้การันตีอนาคตกับทีมแต่อย่างใด โดยอดีตดาวเตะลิเวอร์พูลซึ่งเหลือสัญญากับทีมอีกแค่ปีเดียวเตรียมจะกลับมาทำการเจรจากับต้นสังกัดอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจทีมชาติ
สเตอร์ลิงซึ่งรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ มีเงื่อนไขสำคัญคือ ‘ต้องได้ลงสนามสม่ำเสมอ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่แมนฯ ซิตี้ไม่สามารถการันตีให้ได้ และทำให้มีแนวโน้มที่การเจรจาจะไม่จบลงด้วยการจับมือกัน
กองหน้าความเร็วสูงรายนี้ไม่ปิดโอกาสที่จะย้ายไปต่างแดน เรอัล มาดริดเป็นทีมที่จับตามองสถานการณ์มานานแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน เช่นเดียวกับบาร์เซโลนาที่เคยให้ความสนใจในช่วงปีใหม่
แต่ล่าสุด Daily Telegraph รายงานว่า เชลซีเป็นอีกทีมที่อาจยื่นซื้อสเตอร์ลิงมาร่วมทีมเพื่อปรับทัพในแนวรุก เพียงแต่ทีมยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด เพราะพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ อย่าง อุสมาน เดมเบเล, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ไปจนถึง กาเบรียล เชซุส เพื่อนร่วมทีมของสเตอร์ลิงที่ต้องการย้ายออกจากทีมเช่นกัน
บาร์ซา-แมนฯ ยูไนเต็ดไม่มีปัญหา อยู่ที่ใจของ เดอ ยอง
ในขณะที่ด้านหนึ่งแมนฯ ยูไนเต็ดมีข่าวว่ายังไม่ยอมตัดใจจาก ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกทีมเบนฟิกาที่มีกระแสข่าวว่ากำลังจะโดนลิเวอร์พูลคู่ปรับตลอดกาลตัดหน้าไป ถึงขั้นส่งทีมเจรจาไปพบกับ จอร์จ เมนเดส เอเจนต์คนดังเลยทีเดียว
แต่นักเตะที่เป็นเป้าหมายอันดับ 1 สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ดที่ เอริก เทน ฮาก ปรารถนามากที่สุดไม่ใช่นูนเญซ แต่ยังคงเป็น แฟรงกี เดอ ยอง กองกลางจอมทัพทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งนายใหญ่คนใหม่แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดต้องการที่จะสร้างทีมโดยมีเขาเป็นศูนย์กลางเลยทีเดียว
ปัญหาคือการเจรจาที่ผ่านมามีความยากลำบาก เพราะถึงบาร์เซโลนายินดีที่จะเปิดทางให้ย้าย เพราะทีมต้องการเงินจากการขายนักเตะเพื่อปลดล็อกสถานะทางการเงินของสโมสรที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต แต่เดอ ยองยังบ่ายเบี่ยงที่จะย้ายออกจากรังคัมป์นู
เหตุผลนั้นมีสองอย่าง หนึ่งคือเขายังต้องการพิสูจน์ตัวเองกับบาร์เซโลนา ทีมที่ฝันถึงมาโดยตลอด และยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีความสามารถที่จะทำได้ดีขึ้นอีก และอีกหนึ่งเหตุผลคือเขาต้องการเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นสิ่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดไม่สามารถให้เขาได้
ดังนั้นถึงเทน ฮากจะเป็นเจ้านายเก่า และมี ดอนนี ฟาน เดอ บีค เพื่อนเก่า แต่การตกระกำลำบากของเพื่อน และประเมินศักยภาพของแมนฯ ยูไนเต็ดที่ดูแล้วอาจจะต้องใช้เวลานานในการสร้างทีมเพื่อกลับมาอยู่ในระดับเดิม ทำให้เดอ ยองปฏิเสธที่จะย้ายมาโดยตลอด
แต่ท่าทีล่าสุดน่าจับตามองเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดยื่นข้อเสนอ 60+20 ล้านปอนด์ (ตามเงื่อนไข) ให้แก่บาร์ซาซึ่งไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว ซึ่งการยื่นข้อเสนออาจหมายถึงการที่เทน ฮาก และทีมเจรจาที่นำโดย จอห์น เมอร์โท สามารถกล่อมให้เดอ ยองย้ายมาร่วมทีมได้แล้ว?
อย่างไรก็ดีแมนฯ ยูไนเต็ดต้องระวังอีกหลายทีมที่จับตาสถานการณ์เช่นกัน รวมถึงแมนฯ ซิตี้ที่มีโอกาสจะเสีย แบร์นาร์โด ซิลวา ที่ต้องการย้ายออกจากอังกฤษด้วยเหตุผลส่วนตัว (ครอบครัว) ซึ่งตัวกองกลางชาวโปรตุเกสก็เป็นข่าวกับบาร์เซโลนา ที่อาจหมายถึงการสลับขั้วกันโดยที่แฮปปี้ทุกฝ่าย
สาวกเรดอาร์มีต้องจับตาดีลนี้ให้ดี และต้องเอาใจช่วยอย่างหนัก เพราะหากวืดขึ้นมาจะเป็นการตอกย้ำความตกต่ำที่บอบช้ำที่สุด
บาเยิร์นกับความพยายามครั้งที่ 3 เพื่อ ซาดิโอ มาเน
บาเยิร์น มิวนิกในช่วงหลังแม้จะยังเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของเยอรมนีอยู่ แต่สถานการณ์ภายในสโมสรไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในเรื่องนอกสนามที่ดูเหมือนการบริหารของโอลิเวอร์ คาห์น ในฐานะซีอีโอสโมสรคนปัจจุบันและ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ในบทผู้อำนวยการสโมสรจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
ก่อนหน้านี้บาเยิร์นเสีย ดาวิด อลาบา ปราการหลังตัวหลักของทีมไปแบบฟรีๆ ให้กับเรอัล มาดริด เพราะไม่สามารถตกลงเรื่องของการต่อสัญญาได้ และกำลังจะเสีย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี หัวหอกหมายเลขหนึ่งของโลกที่เป็นเป้าหมายของบาร์เซโลนาด้วย
กรณีของเลวานดอฟสกี แม้จะมีรายงานข่าวไม่กี่วันก่อนหน้าว่าเป็นเพราะเกิดแตกหักกับ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ โค้ชหนุ่ม แต่อีกส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากการที่บาเยิร์นส่งสัญญาณสนใจ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ในขณะที่ยังอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำให้ดาวยิงชาวโปแลนด์รู้สึกเสียเกียรติ
นั่นนำไปสู่การพยายามหาสตาร์สักคนที่จะมาเพื่อทดแทนเลวานดอฟสกี ซึ่งบาเยิร์นเลือก ซาดิโอ มาเน สตาร์ลิเวอร์พูลที่มีปัญหา ‘ถูกมองข้ามความสำคัญ’ เช่นเดียวกันบวกกับการอิ่มตัวเพื่อค้นหาความท้าทายใหม่หลังอยู่ในแอนฟิลด์มาครบ 6 ปี
แต่การเจรจาระหว่างบาเยิร์นและลิเวอร์พูลดูติดขัด ซึ่งมาจากฝั่งทีมจากแคว้นบาวาเรียที่ยื่นข้อเสนอมาต่ำกว่าสิ่งที่ทีมดังจากอังกฤษคาดหวังมาก โดนข้อเสนอแรกนั้นเพียงแค่ 21+4 ล้านปอนด์เท่านั้น ก่อนที่จะรีบยื่นข้อเสนอที่ 2 จำนวน 23.5+6.5 ล้านปอนด์ หรือรวมแล้ว 30 ล้านปอนด์
ตัวเลขข้อเสนอที่ 2 นั้นยังห่างจากสิ่งที่ลิเวอร์พูลคาดหวังไว้ที่ราว 40 ล้านปอนด์หรือมากกว่า และในเงื่อนไขของการจ่ายเงินเพิ่มก็ยังเป็นเงื่อนไขที่เหมือนใส่มาเพื่อเล่นตลก เช่น จะจ่ายเมื่อบาเยิร์นได้ถ้วยแชมเปียนส์ลีก หรือมาเนได้บัลลงดอร์ 3 ครั้ง
แม้ว่าบาเยิร์นเองจะเคยปล่อย ติอาโก อัลกันตารา กองกลางตัวหลักให้ลิเวอร์พูลเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยราคาแค่ 25 ล้านปอนด์ และมองว่าคราวนี้พวกเขาก็ควรจะได้รับการตอบแทน แต่ฝั่งลิเวอร์พูลยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องกัน กรณีของมาเนควรจะเทียบกับเลวานดอฟสกี ที่บาเยิร์นเองก็เรียกจากบาร์ซา 50 ล้านยูโรเช่นกัน
อย่างไรก็ดีจากความคืบหน้าของกรณี ดาร์วิน นูนเญซ ทำให้มีการคาดว่าบาเยิร์นคงจะยอมยื่นข้อเสนอมาตามที่ลิเวอร์พูลต้องการที่ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำไปใช้ต่อทุนในการซื้อกองหน้าชาวอุรุกวัยอีกที
อ้างอิง:
- https://www.skysports.com/football/live-blog/20876/12476234/transfer-centre-live-chelsea-are-reportedly-weighing-up-a-bid-for-man-city-forward-raheem-sterling
- https://www.espn.com/soccer/soccer-transfers/story/4682975/man-united-rebuild-erik-ten-hag-steps-up-pursuit-to-sign-midfielder-sources
- https://www.telegraph.co.uk/football/2022/06/09/exclusive-chelsea-interested-raheem-sterling-manchester-city/?utm_content=football&utm_medium=Social&utm_campaign=Echobox&utm_source=Twitter#Echobox=1654769085