วันนี้ (7 มิถุนายน) รสนา โตสิตระกูล อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. โดยระบุว่า “ฝากผู้ว่าฯ ชัชชาติช่วยดูแลอาคารเก่าที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะรื้อเพื่อเป็นทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ดิฉันเคยทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศิลปากรเรื่องอาคารเก่า 7 คูหาบนถนนพระสุเมรุ ที่ รฟม. มีโครงการจะรื้ออาคารเก่าชุดนี้เป็นทางขึ้นลงที่ 1 ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-สำราญราษฎร์
โดยที่อาคารเก่าชุดนี้อยู่บนถนนพระสุเมรุตอนปลายมีทั้งหมด 14 คูหา และถูกคั่นด้วยซอยเล็กๆ
“อาคารทั้ง 14 คูหาเป็นอาคารของเอกชนที่อยู่ในรายการที่กรมศิลปากรจะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตามกฎหมาย และอธิบดีกรมศิลปากรได้ทำหนังสือแจ้งทาง รฟม. ว่าดิฉันได้ร้องเรียนให้หลีกเลี่ยงที่จะรื้ออาคาร 7 คูหาเพื่อใช้พื้นที่อาคารดังกล่าวเป็นทางขึ้นลงรถไฟฟ้าที่ 1 (Entrance 1) บนถนนพระสุเมรุ
อธิบดีกรมศิลปากรได้ตอบหนังสือดิฉันว่าเคยมีหนังสือแจ้งให้ รฟม. หลีกเลี่ยงการรื้อทำลายอาคารดังกล่าวแล้วตั้งแต่ 18 พฤศจิกายน 2559 ว่าในพื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตร ที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่านนั้นมีโบราณสถาน 310 รายการ ซึ่งหนึ่งในรายการนั้นคืออาคาร 14 คูหาบนถนนพระสุเมรุ ดังกล่าวอยู่ในรายการด้วย”
รสนาระบุต่อไปว่า ในเวลาต่อมาทางกรมศิลปากรได้มีหนังสือถึง รฟม. อีกครั้ง ลงวันที่ 9 มีนาคม 2565 โดยอ้างถึงหนังสือของตนเองว่า ขอให้กรมศิลปากรตรวจสอบสถานะของอาคาร 14 คูหาดังกล่าวว่าเป็นโบราณสถานหรือไม่ และขอให้แจ้งต่อ รฟม. เพื่อหลีกเลี่ยงการรื้อทำลายอาคาร 7 คูหาเป็นทางขึ้นลงรถไฟฟ้า โดยหนังสือของอธิบดีกรมศิลปากรถึง รฟม. ได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าอาคาร 14 คูหานั้นเป็นโบราณสถานตามกฎหมาย และขอให้ รฟม. หลีกเลี่ยงการรื้อทำลายอาคารดังกล่าวเป็นทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้า และขอให้ประสานกรมศิลปากรหารือเพื่อหลีกเลี่ยงการรื้อทำลายอาคารโบราณสถาน และ/หรือกำหนดมาตราการลดผลกระทบต่อโบราณสถานเสนอกรมศิลปากรต่อไปนั้น
“ต่อมาดิฉันได้ทราบว่าทาง รฟม. ยังคงเดินหน้าต่อไปที่จะใช้พื้นที่นี้เป็นทางขึ้นรถไฟฟ้า โดยได้ติดต่อผู้เช่าอาคารเป็นรายๆ มาเจรจาเพื่อให้ย้ายออกไป ทั้งที่การหลีกเลี่ยงรื้ออาคารเก่าชุดนี้สามารถทำได้ เพราะถนนพระสุเมรุเป็นถนนแคบ ไม่มีผู้คนสัญจรคับคั่ง ไม่มีความจำเป็นต้องทำทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าถึง 4 ทาง สมควรลดลงเหลือ 2 ทางได้ด้วยซ้ำไป จะเป็นการประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างและไม่ทำลายอาคารสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในเกาะรัตนโกสินทร์ จึงขอฝากกรณีนี้ถึงผู้ว่าฯ ชัชชาติโปรดช่วยพิจารณาเจรจากับทาง รฟม. ด้วย”