ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งทะยานแตะระดับ 118-119 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลัง EU มีมติระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปีนี้ หวังเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียเร่งยุติสงคราม
การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU) วาระพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นพ้องข้อตกลงให้ตัดลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียลง 90% ภายในสิ้นปีนี้ นับเป็นมาตรการขั้นรุนแรงสุดเพื่อตัดแหล่งเงินทุนมหาศาลของรัสเซีย และเพิ่มแรงกดดันในการยุติสงคราม
มติดังกล่าวส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทันที โดยเช้าวันนี้ (31 พฤษภาคม) ตามเวลาประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้นราว 3.19% แตะระดับ 118.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.38% มาอยู่ที่ระดับ 119 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้นำ EU เห็นพ้อง ตัดลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปี เพิ่มแรงกดดันยุติสงคราม
- วิกฤตขาดแคลนพลังงานทำยุโรประอุ หวั่นยิ่งจุดชนวนแย่งชิงก๊าซ ดันราคาพุ่งกระทบชาติเอเชีย
“ข้อตกลงห้ามการนำเข้าน้ำมันรัสเซียไปยัง EU จะครอบคลุมถึงการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 2 ใน 3 ในทันที ซึ่งทำให้แหล่งเงินทุนขนาดใหญ่สำหรับเครื่องจักรสงครามของรัสเซียลดลง และเพิ่มแรงกดดันสูงสุดต่อรัสเซียเพื่อให้ยุติสงคราม” ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ทวีตข้อความภายหลังสิ้นสุดการประชุมวันแรก
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวใช้เวลานานหลายชั่วโมงไปกับการหาทางออกสำหรับอุปสรรคและปัจจัยที่แตกต่างกันของชาติสมาชิก โดยมีฮังการีที่เป็นตัวหลักในการคัดค้านการแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซียทั้งหมด
ซึ่งผู้นำ EU เห็นพ้องว่า มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดังกล่าวจะยกเว้นสำหรับฮังการี เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและต้องพึ่งพิงน้ำมันดิบที่ส่งผ่านท่อจากรัสเซีย ส่วนประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอื่นๆ อย่างสโลวาเกียและสาธารณรัฐเช็ก ก็ขอเวลาเพิ่มขึ้นเนื่องจากยังต้องพึ่งพิงน้ำมันจากรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายจับตามองผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียล่าสุด ซึ่งมีขึ้นท่ามกลางภาวะวิกฤตค่าครองชีพและเงินเฟ้อ ตลอดจนราคาพลังงานพุ่งสูงที่เกิดขึ้นทั่วยุโรป ซึ่งมาตรการรอบนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ EU เองเช่นกัน
ขณะที่การเห็นพ้องในมาตรการแบนน้ำมันรัสเซียรอบใหม่เกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงตำหนิผู้นำ EU ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เบาเกินไป และเรียกร้องให้เพิ่มแรงกดดันต่อมอสโกมากขึ้น
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP