จากกรณีที่ นาดา ไชยจิตต์ ที่ปรึกษาองค์กรด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตวัฒนา รายหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางเพศ พร้อมเปิดเผยข้อมูลดังนี้
“นาดาได้รับข้อความจากน้องคนหนึ่งชื่อ อลิส (นามสมมติ) เธอเป็นหญิงข้ามเพศที่เคยเข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ของว่าที่ ส.ก. ท่านนี้ เมื่อครั้งสมัยทำงานเพื่อสังคมในนามกลุ่มเส้นด้าย เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิดไปพร้อมๆ กับการลงพื้นที่ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคก้าวไกล”
นาดาได้โพสต์เปิดเผยแชตไลน์ถึงข้อความไม่เหมาะสมที่ผู้ลงสมัครคนนี้ได้ใช้กับอดีตพนักงาน โดยอลิสได้เล่าเหตุการณ์ให้นาดาฟังดังนี้
- วันที่ 14 กันยายน 2564 ฉันได้ทักข้อความไปสมัครงานในตำแหน่งธุรการทั่วไป ของบริษัท… ซึ่งเป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าที่พัก โดยมีการนัดสัมภาษณ์งานในวันที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น.
- ต่อมาได้สัมภาษณ์กับ HR ของบริษัท และ HR ได้ทำการถ่ายรูปของฉันส่งไปให้กับทางเจ้าของ หลังจากนั้นเจ้าของได้เดินทางเข้ามาสัมภาษณ์ฉันด้วยตัวเอง มีถามคำถามฉันด้วยว่าแปลงเพศหรือยัง ในวันนั้นฉันได้ทดลองงานจนถึง 18.00 น.
- ในระหว่างวันของการทดลองงาน ช่วงบ่ายทางเจ้าของได้ให้ฉันเดินทางไปดูงานที่ศูนย์เส้นด้ายวัฒนา ซึ่งอยู่ในซอยปรีดี พนมยงค์ 25 เขาพาฉันเดินดูรอบๆ ศูนย์ฯ รวมถึงพาเข้าห้องทำงาน ซึ่งมาทราบทีหลังว่าปกติจะห้ามคนเข้าไป ฉันไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าเพราะอะไร
- ในระหว่างที่ฉันได้เข้าไปทำงานแล้ว ทุกครั้งที่ไปศูนย์ฯ ก็จะมีคำพูดแปลกๆ เช่น วิจารณ์เกี่ยวกับรูปร่างของฉันว่า ‘เอวเล็ก หุ่นดีมากเลย’ และทางเจ้าของให้แอดไลน์ส่วนตัวในวันแรกของการสัมภาษณ์ และให้ฉันมาเริ่มงานในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564
- แต่ในวันที่ 25 กันยายน 2564 ทางเจ้าของได้ส่งข้อความมาทางไลน์ในเชิง Sexual Harassment ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจและอึดอัดมาก แต่ฉันก็ต้องการทำงานไปก่อนเพราะว่าเพิ่งมาจากต่างจังหวัด แต่ในทุกๆ วันหยุดประจำสัปดาห์ฉันก็ได้ไปสัมภาษณ์งานที่อื่นเพราะรู้สึกอึดอัดใจกับการถูกคุกคามในคำพูด
- และการกระทำที่ทำให้รู้สึกอึดอัดคือ มีครั้งหนึ่งคุยงานกันเกี่ยวกับข้อความที่จะโพสลงบนเพจเส้นด้ายวัฒนา ฉันนั่งย่อขาด้านล่าง ส่วนเจ้าของนั่งบนเก้าอี้ เขานั่งท่าอ้าขาพร้อมกับเอามือลูบเป้าตัวเอง ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เก็บความรู้สึกไว้ ทำงานต่อไป หวังว่าหากได้งานที่ใหม่ฉันจะลาออกจากที่นี่ในสิ้นเดือนตุลาคม 2564
- แต่วันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 20.30 น. โดยประมาณ ฉันได้รับแจ้งจาก HR ส่งข้อความมาทางไลน์ให้ฉันพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัท ด้วยเหตุนี้ฉันจึงต้องการเปิดเผยเรื่องราวที่ฉันรู้สึกอึดอัดใจให้กับทางเพจได้รับฟังและหวังว่าจะได้รับความชอบธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นาดาระบุว่า เป้าหมายของโพสต์นี้มีเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับอลิส และอลิสไม่ใช่คนแรกที่เคยได้เจอพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานนี้ และต้องถูกคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน มาตรา 16 ว่าด้วยห้ามนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงานกระทำการล่วงเกินคุกคาม หรือก่อความรำคาญทางเพศต่อลูกจ้าง
ต่อมา รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พรรคก้าวไกลได้มีการติดต่อประสานงานกับผู้เสียหาย ซึ่งต้องรอความพร้อมว่าผู้เสียหายจะเข้ามาร้องเรียนกับทางพรรคเมื่อไร พร้อมยอมรับว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ
แต่ในฐานะพรรคการเมืองต้องแสดงความเชื่อมั่นให้ประชาชนเห็น ขณะที่ทางพรรคเองเตรียมคณะกรรมการวินัย โดยมี ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส. พรรคก้าวไกล เป็นประธาน พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว และพรรคก้าวไกลจะไม่อดทนอดกลั้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนการทำงานร่วมกันของ ส.ก. นั้นได้วางไว้ 2 แนวทาง คือ ห้ามไม่ให้ผู้กระทำใช้สัญลักษณ์ของพรรคในการทำภารกิจต่างๆ ที่สื่อถึงพรรคก้าวไกล และโทษสูงสุดคือการขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
นอกจากนี้ยังยอมรับว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ก. เนื่องจากมีจำนวนมาก อีกทั้งเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2564 ก่อนที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ส.ก. ของพรรค พร้อมน้อมรับ ย้ำว่าที่ผ่านมาไม่ได้ปกปิด ยืนยันว่าจะพิสูจน์แสวงหาข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจน
ด้าน สัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ผู้สมัคร ส.ก. เขตวัฒนา พรรคก้าวไกล ชี้แจงกับ THE STANDARD สั้นๆ ว่า “ขอยืนยันความบริสุทธ์ิ ขอความเป็นธรรม และให้ดำเนินการตามกระบวนการของพรรค ขอเวลารวบรวมข้อมูลแล้วจะชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง”