×

Bitcoin ร่วงอีกเฉียด 10% นักลงทุนโดนล้างพอร์ตกว่า 400 ล้านดอลลาร์ จับตาแนวโน้มร่วงต่อ

06.05.2022
  • LOADING...
Bitcoin

ราคา Bitcoin ซื้อขายลดลงมากที่สุดในรอบสี่เดือนในวันนี้ (6 เมษายน) โดยราคาร่วงลงเกือบ 10% สู่ระดับต่ำสุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นับตั้งแต่เดือนมกราคม ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ร่วงลงอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนโดนล้างพอร์ต (Liquidation) เกือบ 430 ล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 

 

Bitcoin ลดลงจากเกือบ 40,000 สู่ระดับ 36,000 ดอลลาร์

 

สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งซื้อขายอยู่ที่ 39,845 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ (5 พฤษภาคม) นักลงทุนต่างจับตาดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านสำคัญที่ 40,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม Bitcoin ก็พลิกตัวกลับและร่วงลงถึง 10% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ราคาได้ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรายวันที่ 35,571 ดอลลาร์ในวันนี้ (6 พฤษภาคม) ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย ณ เวลา 18.00 น. เหรียญ BTC ซื้อขายที่ 36,130 ดอลลาร์ โดยลดลงมากถึง 8.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว Bitcoin ให้ผลตอบแทนลดลงมากถึง 37% เลยทีเดียว 

 

 

เหรียญ Altcoins อื่นๆ ในตลาดก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน ราคา Ethereum ลดลงประมาณ 7% ในขณะที่ Solana หนึ่งในคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็ปรับตัวลงประมาณ 11%

 

มูลค่าสินทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของคริปโตเคอร์เรนซีหายไปถึง 7.5% หรือคิดเป็นประมาณ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าตลาดลดลงจาก 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เป็น 1.76 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าตลาดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

ดูเหมือนว่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงจะมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ลดลงถึง 3.5% Nasdaq ร่วงลงถึง 5% นับเป็นวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2020 

 

นักลงทุนโดนล้างพอร์ตกว่า 400 ล้านดอลลาร์ 

 

ข้อมูลจาก CoinGlass แสดงให้เห็นว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ร่วงลงอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนโดนล้างพอร์ต (Liquidation) เกือบ 430 ล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักลงทุนสาย Long ถูกล้างพอร์ต 367.49 ล้านดอลลาร์ และนักลงทุนสาย Short ถูกบังคับให้ปิดสถานะอีกราวๆ 62.3 ล้านดอลลาร์

 

 

แนวโน้มราคา Bitcoin จะเป็นอย่างไรต่อไป

 

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลและเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโต ซึ่งในเวลานี้สหรัฐอเมริกาไม่ใช่ประเทศเดียวที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน รวมถึงธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ด้วย 

 

สภาวะตลาดที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง ทำให้ BTC และตลาดคริปโตมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง อย่างน้อยก็จนกว่าธนาคารกลางจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ แม้ว่าในตอนนี้ตลาดคริปโตจะไม่ได้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในทางเทคนิค แต่จากตัวชี้วัดแบบ On-chain หลายๆ ตัวยังคงบ่งบอกถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ BTC ซึ่งในระยะยาวนี่อาจเป็นโอกาสในการซื้อและถือครองในระยะยาวได้

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนที่สูงมาก นักลงทุนจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ และกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วย

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising