เงินบาทปิดตลาดวันนี้ (25 เมษายน) ที่ระดับ 34.04 บาทต่อดอลลาร์ เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี นับจากเดือนกรกฎาคม 2560 ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นไปในทิศทางของการอ่อนค่า
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า สาเหตุหลักที่เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีแนวโน้มว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ ประกอบกับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่จีนยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดเอาไว้ได้ ล่าสุดขยายวงไปยังกรุงปักกิ่ง ทำให้จีนต้องตัดสินใจล็อกดาวน์บางพื้นที่
นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงโดยเร็ว ทำให้นักลงทุนปิดความเสี่ยง (Risk Off) หันมาถือครองเงินสกุลดอลลาร์แทน ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีเรื่องการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นฤดูการจ่ายเงินปันผล จึงมีเม็ดเงินบางส่วนของนักลงทุนต่างชาติถูกส่งกลับประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ทำให้เงินบาทช่วงนี้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
“ช่วงนี้ดอลลาร์กลายเป็น Safe Haven ของนักลงทุน เพราะมีสารพัดปัจจัยลบกดดันเศรษฐกิจโลก ส่วนใหญ่จึงโยกมาเก็บไว้ในรูปของเงินดอลลาร์ก่อน ภาพตลาดจึงเป็นลักษณะของการ Risk Off”
สำหรับแนวโน้มเงินบาท ระยะสั้นมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 34.15 บาทต่อดอลลาร์ หากหลุดระดับนี้ไปได้มีโอกาสที่จะเห็นเงินบาทไหลลงไปแตะระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ระยะยาวถึงสิ้นปียังมองว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ ดังนั้นในช่วงนี้จึงแนะนำผู้ประกอบการต่างๆ ควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP