วันนี้ (24 เมษายน) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงย่านฝั่งธนในพื้นที่เขตเมืองเก่า ได้แก่ บางกอกใหญ่ ธนบุรี และคลองสาน เพื่อแนะนำตัวและพบปะประชาชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้ วิโรจน์ยังได้ช่วยผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) แต่ละเขต ขอคะแนนกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้รับการต้อนรับอย่างคึกคัก
เริ่มต้นที่เขตบางกอกใหญ่ วิโรจน์นำ เฮ้าส์-ต้นศักดิ์ ใหลสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ เบอร์ 1 ทักทายพี่น้องประชาชนในวันหยุดสุดสัปดาห์บริเวณริมคลองบางกอกใหญ่ พร้อมหารือถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะคลองบางกอกใหญ่ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด มีการท่องเที่ยวริมคลองที่คึกคัก ระหว่างการเดินสำรวจเส้นทางริมคลองบางกอกใหญ่ วิโรจน์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเปิดเมืองจะช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิต ผู้ว่าฯ กทม. ต้องเร่งฉีดวัคซีน เปิดเมืองเพื่อเปิดเศรษฐกิจ ทำให้คนรู้สึกปลอดภัย ทำให้คนไม่นึกถึงความตาย รณรงค์ฉีดบูสเตอร์ครบ 9 ล้านโดส และต้องเปิดเผยข้อมูลว่ามียาเพียงพอ โปร่งใส เปิดระบบข้อมูลเตียงว่าง สร้างความมั่นใจว่าผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงหาเตียงได้แน่ๆ เมื่อความกลัวลดลงก็จะเปิดเมืองได้
ถัดจากนั้นวิโรจน์พร้อมด้วย กระรอก-สุประวีณ์ น้อยสุขยิ่ง ผู้สมัคร ส.ก. เขตธนบุรี เบอร์ 7 นำทีมปราศรัยท้าลมร้อนบริเวณตลาดพลู พร้อมเดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ เนื่องจากตลาดพลูเป็นศูนย์รวมสตรีทฟู้ดชื่อดังย่านฝั่งธน และมีร้านค้าผลัดกันเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน จึงทำให้ผู้ที่สนใจที่ผ่านไปผ่านมาร่วมรับฟังและเข้ามาทักทายสอบถามปัญหากับวิโรจน์และผู้สมัคร ส.ก. เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือผู้ค้าบริเวณตลาดพลูที่เสียน้ำตาระหว่างการพูดคุย เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ค้าขายฝืดเคือง วิโรจน์จึงย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า นี่คือเหตุผลที่กรุงเทพฯ จะต้องเปิดเมือง เพื่อคนกรุงเทพฯ ได้ใช้ชีวิตและทำมาหากิน ไม่ใช่เปิดเมืองเพื่อนักท่องเที่ยวและยังทำให้ผู้คนกังวลกับการติดโรคอยู่
เขตสุดท้ายของวิโรจน์พร้อม โจ-ทรงวุฒิ จันทร์อำนวยโชค ผู้สมัคร ส.ก. เขตคลองสาน เบอร์ 6 เดินเลียบเลาะเส้นทางสายวัฒนธรรมตั้งแต่ศาลเจ้ากวนอู ชุมชนสวนสมเด็จ เพื่อขอคะแนนกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยยืนยันการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ว่าฯ, ส.ก. และ ส.ส. ของเขตคลองสานจะเหนียวแน่นสอดประสาน เพราะสามารถทำงานอย่างไร้รอยต่อได้ เพราะมีผู้แทนทุกระดับจากพรรคก้าวไกล และสิ่งที่สามารถผลักดันได้ทันทีคือนโยบายท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพลิกฟื้นลมหายใจของย่าน วิโรจน์อธิบายกับผู้สื่อข่าวว่า พื้นที่คลองสานเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพและร่ำรวยทางวัฒนธรรม ตนจึงอยากผลักดันนโยบายนี้ให้ควบคู่กับโอกาสของการเปิดเมืองเพื่อคนกรุงเทพฯ ที่จะมาถึง
